บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) ผู้บริหารโรงพยาบาลกรุงเทพ คาดว่า กำไรสุทธิในปี 54 จะเติบโตกว่ารายได้ที่คาดว่าจะเติบโต 11% เนื่องจากมีการพัฒนาเทคโนโลยี และการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 2,400 ล้านบาท เน้นลงทุนอุปกรณ์การแพทย์ในช่วงครึ่งหลังของปี
ส่วนความคืบหน้าการลงทุนในโรงพยาบาลใหม่ทั้งอาบูดาบี หรือต่างประเทศที่อื่น รวมถึงการติดต่อพูดคุยกับโรงพยาบาลในแถบอาเซียนก่อนจะมีการเปิดตลาดเสรีอาเซียนในเร็วๆนี้ คงยังไม่ได้ข้อสรุปการเจรจาในปีนี้
นายแพทย์ชาตรี ดวงเนตร ประธานคณะผู้บริหาร ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ BGH เปิดเผยว่า ในปี 54 กำไรสุทธิจะเติบโตมากกว่ารายได้ที่คาดว่าจะเติบโต 11% ซึ่งผ่านไป 2 ไตรมาสการเติบโตยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย และทั้งปีก็ไม่น่าจะผิดไปจากคาด
ปัจจุบัน ร.พ.มีคนไข้ที่เป็นผู้ป่วยนอกประมาณ 1.8 หมื่นคน และผู้ป่วยใน 2.5 พันเตียง/วัน และค่าใช้จ่ายต่อคนประมาณ 5,000 บาท
นายแพทย์ชาตรี กล่าวว่า การที่ ร.พ.จะมีกำไรเติบโตกว่ารายได้ เนื่องจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ประกอบกับ มีการควบคุมต้นทุนการบริหารเป็นอย่างดี โดยขณะนี้มี ร.พ.ในเครือทั้งหมด 28 แห่ง แบรนด์ ร.พ.กรุงเทพ 13 แห่ง, ร.พ.สมิติเวช 3 แห่ง, ร.พ.บีเอ็นเอช 1 แห่ง,ร.พ.รอยัลกัมพูชา 2 แห่ง และมีการลงทุนรายการซื้อเครือ ร.พ.พญาไทและร.พ.เปาโล ซึ่งมี ร.พ.รวมกัน 8 แห่ง
บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 2,400 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยังใช้ไม่ถึง 50% คาดว่าจะมีการลงทุนมากขึ้นในครึ่งปีหลัง ส่วนใหญ่เป็นการซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่เหลือใช้ปรับปรุงอาคารสถานที่ ส่วนการลงทุนในต่างประเทศที่อยู่ระหว่างเจรจาที่อาบูดาบีคาดว่าปีนี้จะยังไม่มีข้อสรุป ขณะที่โอกาสการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ขณะนี้มีการติดต่อจากโรงพยาบาลทั้งที่สิงคโปร์ เวียดนาม พม่า แต่เชื่อว่าจะยังไม่มีข้อสรุปในปีนี้