MFC ออกกองทุนทาร์เก็ตฟันด์ I-ASEAN STAR 10 ตั้งเป้าผลตอบแทน 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 21, 2011 16:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี(MFC) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดขายกองทุนทาร์เก็ตฟันด์กองทุนใหม่ I-ASEAN STAR 10 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้าผลตอบแทน 10% มองเป็นจังหวะลงทุนที่ดีในอาเซียน

กองทุนเปิด I-AESAN STAR 10 มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยจะลงทุนตราสารแห่งทุนและตราสารหนี้ ซึ่งตราสารทุนจะลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม เป็นต้น แต่จะไม่ลงทุนในไทย โดยหวังสร้างโอกาสผลตอบแทนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) ภายใน 1 ปี จากจังหวะเศรษฐกิจที่ดีของอาเซียน

กองทุนจะมีการบริหารแบบ Active เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงทำให้สามารถปรับพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที และมีการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามสภาวะตลาด โดยขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตการลงทุนโดยมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

นอกจากนี้ กองทุนเปิด I-ASEAN STAR 10 จะสามารถเลิกโครงการได้เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11.30 บาท และตั้งเป้าหมายผลตอบแทนคืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11 บาทต่อหน่วยลงทุน หรือ 10% ภายในเวลา 1 ปี โดยบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงิน(MM-GOV)เพื่อสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่หากเกิน 1 ปี กองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และขายคืนได้ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ และเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 11.10 บาทก็จะเลิกกองทุน และAuto redeem ไปยังกองทุนเปิด MM-GOV นักลงทุนที่สนใจซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 ก.ค.นี้

นางสาวประภา กล่าวว่า จากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อเดือนมิถุนายน 54 มองว่าเศรษฐกิจในอาเซียนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในเกณฑ์ที่ดี โดยรัฐบาลยังคงนโยบายการคลังแบบกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสภาพคล่องในระบบการเงินที่มีอยู่สูง ประมาณการการเติบโตของรายได้ในปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 23 และปี 2555 อยู่ที่ร้อยละ 16.7 และเงินปันผลเฉลี่ยอยู่ในระดับร้อยละ 3.4-3.8 ต่อปี และยังมีปัจจัยส่งเสริมการลงทุนในแต่ละประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซียมีตัวเลขการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องมีการขยายตัวของวัฏจักรการลงทุน

ส่วนสิงคโปร์มีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่คาดว่าจะฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของความต้องการในช่วงปลายปีของตลาดสหรัฐฯ และสินเชื่อเติบโตอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 20 ซึ่งเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีที่แล้วตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมาเลเซียที่มีโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อนำเศรษฐกิจของประเทศไปสู่รายได้ที่สูงในปี 2020 เช่น โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ การสร้างเมืองใหม่ การบริหารเงินทุน และควบรวมกิจการต่างๆ เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ