นายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจทั้งปี 54 บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ราว 5.1-5.2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 50% จากปีก่อนที่ปล่อยไป 4.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างสิ้นปีเพิ่มเป็น 6.8-7 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่ 5.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คาดว่าจะอยู่ที่ 0.92% ลดลงจากปีก่อนที่ 1.12% และตั้งเป้ากำไรสุทธิไว้ที่ 467 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 393 ล้านบาท
ณ สิ้นเดือน มิ.ย.54 บริษัทมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 60,248 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันจากปีก่อน 22.82% ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) อยู่ที่ 0.89% ซึ่งเป็นคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันจากปีก่อน ที่ 1.43% หรือดีขึ้นกว่า 0.50% ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งแรกปี 54 ของบริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย มีกำไร 237 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันจากปีก่อน 5.8%
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาดในปี 55 เพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปัจจุบันที่ 8% และหวังว่าภายในอีก 2 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีส่วนแบ่างทางการตลาดในอันดับที่ 1 ในธุรกิจเช่าซื้อ
สำหรับแผนธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังของปีบริษัทจะรุกธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ/ลีสซิ่งรถยนต์กสิกรไทย โดยจะขยายกลุ่มรถยนต์ใหม่ให้ครอบคลุมรถยนต์ทุกยี่ห้อ และรุกตลาดในกลุ่มรถกระบะมากขึ้น รวมถึงลูกค้ากลุ่มรถยนต์ใช้แล้ว เพื่อเป็นการขยายตลาดและเป้าหมายการเป็นผู้นำอันดับ 1 ในอีก 2 ปีข้างหน้า
บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ครึ่งปีหลังที่ 2.9-3 หมื่นล้านบาท สูงกว่าครึ่งปีแรกที่ปล่อยไป 2.77 หมื่นล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันจากปีก่อน 41.16% ซึ่งเป็นไปตามยอดขายรถยนต์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก ที่มียอดขายรวม 4.3 แสนคัน โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ยอดขายรถยนต์ ในช่วงครึ่งปีหลังยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัว สถานการณ์การเมืองในประเทศที่มีความชัดเจน รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคให้เพิ่มขึ้น
ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆออกมาวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์อีโคคาร์ 2 รุ่น จากมิซซูมิชิ และซูซูกิ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี คาดว่ายอดขายรถยนต์ทั้งปีจะอยู่ที่ 9 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 8 แสนคัน และยอดการผลิตรวมทั้งปีจะอยู่ที่ 1.8 แสนคัน
ด้านสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย สำหรับรถยนต์ที่ปลอดภาระนำมาขอสินเชื่อ คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย เริ่มให้บริการเป็นรายแรกและรายเดียวในขณะนี้ก็จะบุกตลาดมากยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยจะมีแคมเปญพร้อมเงื่อนไขพิเศษเพื่อตอบโจทย์ให้ตรงใจลูกค้า และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งให้มากยิ่งขึ้น นายอิสระ กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี่ยเช่าซื้อของบริษัทภายในสิ้นปีนี้มีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็น 3% จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 2.75% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยปัจจุบันดอกเบี้ยเช่าซื้อของบริษัทอยู่ที่ 2.55% และในต้นเดือนส.ค.จะเพิ่มเป็น 2.65% อย่างไรก็ตาม มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคมากนัก เพราะหากเทียบกับดอกเบี้ยประเภทอื่นๆยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงในช่วงครึ่งปีหลังที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูง