ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกเพดานหนี้สหรัฐ ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 88.36 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 26, 2011 06:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจากการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ และผู้นำสภาคองเกรสยังไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลง 3 ขั้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 88.36 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 12,592.80 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 7.59 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 1,337.43 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 16.03 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 2,842.80 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.3 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างประธานาธิบดีโอบามา นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ นายแฮร์รี รี้ด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และนางแนนซี เพโลซี โฆษกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ยังไม่มีความคืบหน้า

สหรัฐมียอดเงินกู้ชนเพดานหนี้ที่ระดับ 14.29 ล้านล้านดอลลาร์ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยกระทรวงคลังสหรัฐระบุว่า สหรัฐอาจเริ่มเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเตือนว่า หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ก่อนกำหนดวันที่ 2 ส.ค. ก็จะส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกอีกครั้ง

นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า การตัดสินใจเรื่องเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐได้กลายมาเป็นประเด็นทางการเมืองแล้ว โดยเขาระบุว่า พรรครีพับลิกันดำเนินการเรื่องนี้ช้าเกินไป พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายขจัดประเด็นการเมืองออกไปจากการตัดสินใจเรื่องปรับเพิ่มเพดานหนี้

มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า รัฐสภาสหรัฐจะไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางได้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 4 ส.ค.นี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้

ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ หรือ เอสแอนด์พี เตือนว่ามีโอกาส 50% ที่อันดับความเชื่อถือของสหรัฐจะถูกปรับลดจากระดับสูงสุดที่ AAA ในช่วงสามเดือนจากนี้ หากรัฐสภาสหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลได้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวมูดีส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือกรีซลง 3 ขั้น สู่ระดับ Ca จาก Caa1 พร้อมระบุว่า แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และกรีซยังคงเผชิญกับความเสี่ยงในการชำระหนี้ระยะสั้นที่รุนแรง

หุ้นคิมเบอร์ลี-คล้าก ผู้ผลิตกระดาษชำระ Kleenex และผ้าอ้อมสำเร็จรูป Huggies ร่วงลงกว่า 2% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2554 แม้ผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก็ตาม ขณะที่หุ้นรีเสิร์ช อิน โมชัน (อาร์ไอเอ็ม) ผู้ผลิตแบล็คเบอร์รี ดิ่งลงกว่า 4% หลังจากบริษัทประกาศลดจำนวนพนักงาน 2,000 ตำแหน่งตามแผนการลดต้นทุน

อย่างไรก็ตาม หุ้นแอปเปิลปิดบวก 1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 7.31 พันล้านดอลลาร์ หรือ 7.79 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับ 3.25 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.51 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากแอปเปิลสามารถทำยอดขายไอโฟนได้ 20.34 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 142% เมื่อเทียบกับปีก่อน และทำยอดขายไอแพดได้ 9.25 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 183% เมื่อเทียบปีต่อปี

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนพ.ค., คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ค. และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., ธนาคารกลางสหรัฐสาขาชิคาโกจะเปิดเผยดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนมิ.ย. และธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2, สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจรัฐนิวยอร์กเดือนก.ค. และสมาคมผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติ (NAPM) จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ