ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มการเงิน หลังจากการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ และผู้นำสภาคองเกรสยังไม่มีความคืบหน้า
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 9.76 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 5,925.26 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า สหรัฐอาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้และอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามา และผู้นำในสภาคองเกรสของสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวนอกจากจะทำให้สหรัฐเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้แล้ว ยังอาจทำให้สหรัฐสูญเสียอันดับความน่าเชื่อที่ระดับ AAA ด้วย
ความวิตกกังวลเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐได้ฉุดหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลง โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ร่วงลง 4.4% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 1.6% หุ้นเอวิวา ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่อันดับสองของอังกฤษ ดิ่งลง 3% และหุ้นเลกัล แอนด์ เจนเนอรัล กรุ๊ป ร่วงลง 1%
หุ้นไรอัน แอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่สุดของยุโรป ร่วงลง 1.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากผลกระทบของต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงไม่มากนัก เพราะตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเวชภัณฑ์ โดยหุ้นบีพีดีดตัวขึ้น 1.1% ขณะที่หุ้นแกล็คโซสมิธไคลน์ บริษัทผลิตยารายใหญ่สุดของอังกฤษ พุ่งขึ้น 1.7% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้