นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารลงนามสัญญาทางการเงินและความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกัน (Reciprocal Funding Line Agreement) ภายใต้วงเงินสนับสนุน 8,000 ล้านบาท กับธนาคารเพื่ออุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน (Industrial and Commercial Bank of China Limited) หรือ ICBC
ทั้งนี้ เพื่อเสริมศักยภาพการให้บริการทางการเงินของสองธนาคารพันธมิตร ทั้งในสาธารณรัฐประชาชนจีนและไทย ในด้านความร่วมมือเพื่อสนับสนุนสินเชื่อสำหรับโครงการต่าง ๆ การปล่อยกู้ร่วมสำหรับโครงการขนาดใหญ่ การโอนและชำระเงินระหว่างประเทศ การแนะนำลูกค้าให้แก่กัน (Business Matching) การแลกเปลี่ยนความรู้และนวัตกรรมในการบริหารธุรกิจระหว่างทั้งสองธนาคาร และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ตลอดจนการพัฒนาเพิ่มทักษะและฝึกอบรมพนักงานระหว่างกัน อันจะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านการเงินและการดำเนินธุรกิจแก่ทั้งสองฝ่ายในอนาคต
KBANK จะนำวงเงิน reciprocal line ดังกล่าว เป็นเงินทุนสำหรับธนาคารกสิกรไทย สาขาเซิ่นเจิ้น เพื่อใช้ในการปล่อยกู้ธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศจีน โดยปีนี้ธนาคารฯ มีการตั้งเป้าปล่อยกู้จำนวน 1,200 ล้านหยวน หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการสินเชื่อในจีนที่มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากกว่า 42 ล้านราย นอกจากนี้ธนาคารกสิกรไทยยังวางแผนจะยกระดับสาขาเป็นธนาคารพาณิชย์ต่างชาติท้องถิ่น ภายในปี พ.ศ. 2556 ด้วย
ปัจจุบัน ตลาดการเงินจีนมีขนาดใหญ่มาก และมีโอกาสเติบโตสูง ในขณะที่อุปสงค์สินเชื่อในตลาดมีมากกว่าอุปทานที่ธนาคารพาณิชย์ในจีนจะสามารถให้ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จึงเป็นโอกาสให้ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะธนาคารชั้นนำที่ชำนาญในเรื่องเอสเอ็มอีของประเทศไทย เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจเข้าไปชิงส่วนแบ่งการตลาดธนาคารพาณิชย์ในจีน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีนและไทย
ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในประเทศจีนมากว่า 10 ปี ประกอบกับความสำเร็จในการร่วมมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ ทำให้เรามีความเข้าใจลูกค้าและตลาดจีน และเชื่อมั่นว่าธนาคารฯ จะสามารถครองใจผู้ประกอบการในประเทศจีนได้อย่างแน่นอน และนอกจากการใช้เครือข่ายเพื่อสร้างพันธมิตรธุรกิจกับธนาคารยักษ์ใหญ่ในจีนแล้ว ธนาคารกสิกรไทยยังได้มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์สนับสนุนให้ผู้ซื้อ-ขายทั้งในไทยและจีนได้รับความสะดวกสบาย อาทิ การโอนเงินไปจีนภายในวันเดียว การชำระเงินเป็นสกุลเงินหยวน (Yuan Trade Settlement) บัญชีเงินฝากสกุลเงินหยวน และการลดความเสี่ยงจากธุรกรรมทางการเงิน เช่น อัตราแลกเปลี่ยน การประกันความเสี่ยง เป็นต้น
ด้านนายหยาง ไข่เซิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และรองประธานกรรมการ ICBC กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนซึ่งกันและกัน โดย ICBC เป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีจุดให้บริการทั้งหมดถึง 16,227 แห่ง มีเครือข่ายความสัมพันธ์กับธนาคารต่างๆ ทั่วโลก(Correspondent Bank) ถึง 1,499 แห่ง และมีสำนักงานสาขาในต่างประเทศทั้งหมด 208 แห่ง โดยมีธนาคารไอซีบีซี (ไทย) (ICBCT)เป็นเครือข่ายในประเทศไทย
ทั้งนี้ ICBC เล็งเห็นว่าการค้าและธุรกิจขนาดใหญ่ของจีนได้ขยายตัวมายังประเทศไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีผู้ประกอบการไทยที่ขยายธุรกิจไปยังประเทศจีนมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปด้วย ICBC และ ICBCT จะสามารถให้บริการทางการเงินเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ประกอบการกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี และด้วยภาคเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของไทย ICBCT จะสามารถให้บริการที่สอดคล้องกับการขยายตัวของธุรกิจและอุตสาหกรรมในประเทศไทยได้ โดยมี KBANK เป็นพันธมิตรในการสนับสนุนสภาพคล่องให้พร้อมรับกับการขยายตัวอย่างรวดเร็ว