นายคเณศ ขาวจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์(TPC)เชื่อว่าผลประกอบการปีนี้ในแง่ของกำไรจะทำออกมาได้ดีกว่าที่คาดหมายไว้ หลังจากครึ่งปีแรกทำกำไรได้สูงถึง 1.2 พันล้านบาท จากกำไรทั้งปีก่อนที่ 1.8 พันล้านบาท รับผลดีจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด)หลักคือพีวีซีปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน
อนึ่ง TPC รายงานงบการเงินไตรมาส 2/54 มีกำไรสุทธิ 766.26 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 321.25 ล้านบาท และช่วงครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 1,279 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 53 ที่มีกำไร 730 ล้านบาท
ส่วนในแง่ของรายได้ปี 54 นี้ บริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ทำได้ 1.58 หมื่นล้านบาท และมั่นใจรายได้รวมปีนี้สูงกว่าปีก่อน 10% มาที่ 3 หมื่นกว่าล้านบาท ภายใต้คาดการณ์ค่าเงินบาทที่ 29 บาท/ดอลลาร์ แต่หากเงินบาทแข็งค่าไปที่ 27 บาท/ดอลลาร์ ก็จะมีผลกระทบ โดยเงินบาทที่แข็งค่า 1 บาทจะกระทบกำไร 60 ล้านบาท เฉพาะในส่วนที่ไม่ได้ทำประกันความเสี่ยงหรือราว 25%
สาเหตุที่เชื่อว่าครึ่งปีหลังรายได้น่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลขายและสเปรดยังอย่ในระดับสูง โดยมองทิศทางราคา PVC ครี่งปีหลังยังอยู่ในระดับที่ดี จากที่ขณะนี้ขึ้นมาที่ 1,100 เหรียญสหรัฐ/ตัน ภายใต้ราคาน้ำมันที่เคลื่อนไหวในระดับ 100 เหรียญ/บาร์เรล เทียบปีก่อนราคาพีวีซีอยู่ที่ 900 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน
เช่นเดียวกับทิศทางสเปรดพีวีซีน่าจะยังอยู่ระดับสูงต่อไปจากขณะนี้อยู่ที่ 600 กว่าเหรียญ/ตัน สูงขึ้นจากไตรมาส 1/54 ที่ 516 เหรียญ/ตัน ไตรมาส 2/54 ที่ 637 เหรียญ/ตัน จากเฉลี่ยปีก่อนที่ 460 เหรียญ/ตัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นสินค้าที่อ่อนไหวการคาดการณ์จะลำบากและครึ่งปีหลังยังขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกทั้งสหรัฐและยุโรปด้วย ซึ่งจะมีผลต่อราคาพีวีซี
นายเคณศ กล่าวว่า ปกติช่วงไตรมาส 3 เป็นฤดูกาลขายพีวีซี เนื่องจากลูกค้าจะซื้อของเพื่อไปผลิตสินค้าขายในไตรมาส 4 ประกอบกับ ขณะนี้ภาพรัฐบาลใหม่ชัดเจนเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ น่าจะทำให้ความต้องการพีวีซีเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาพีวีซีมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูง เพราะครึ่งปีหลังเป็นหน้าหนาวราคาน้ำมันแพงขึ้น
"ครึ่งปีหลังน่าจะขายได้มากกว่าครึ่งแรกเพราะลูกค้าเตรียมตัวผลิตไปขายไตรมาส 4 คำสั่งซื้อจะสูงในไตรมาส 3 นโยบายรัฐบาลมีส่วนทำให้สินค้าเราขายดีโดยเฉพาะนโยบายสาธารณูปโภค ระบบน้ำ เกษตร บ้านหลังแรก ถ้ามีการก่อสร้างก็จะทำให้ปริมาณการใช้สินค้าพวกท่อพีวีซี ประตู หน้าต่าง เพิ่มขึ้น ผลประกอบการครึ่งปีหลังโดยปกติในอดีตจะดีกว่าครึ่งแรกถ้าไม่มีอะไรผันผวน"นายเคณศ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้ตัดสินใจเลื่อนการเดินเครื่องโรงงานผลิต VCM ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดไปเป็นต้นปีหน้า จากที่กำหนดไว้ในเดือน ต.ค.54 เพื่อทบทวนแผนงานให้เป็นไปตามความเห็นขององค์กรอิสระ แต่จากนี้ไปบริษัทจะเน้นการให้บริษัทย่อยขยายการลงทุนด้านดาวน์สตรีม ล่าสุดได้เข้าร่วมทุนตั้งโรงงานผลิตท่อพีวีซีในประเทศพม่า ใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาท และก้าวต่อไปมองไปที่การลงทุนในประเทศเวียดนาม
"การลงทุนใหม่ของบริษัทแม่คงไม่ลงทุนเพราะมีข้อจำกัดมาบตาพุดแต่จะนำเงินไปลงทุนในบริษัทย่อยในธุรกิจดาวน์สตรีมโดยได้มีการเซ็น MOU ร่วมลงทุนท่อพีวีซีกับประเทศพม่าเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท ต่อไปมองที่เวียดนาม"นายเคณศ กล่าว