บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH) คาดว่าจะสามารถสรุปผลการเจรจาซื้อกิจการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 2 แห่งในเอเชียที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงภายในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า แต่จะเลื่อนแผนออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)มูลค่าเทียบเท่า 200 ล้านเหรียญออสเตรเลียไปเป็นช่วงปลายปี จากเดิมที่คาดว่าจะดำเนินการในช่วงกลางปีนี้
RATCH ยังคาดว่ารายได้ในช่วงไตรมาส 2/54 จะเติบโตขึ้นจากไตรมาส 1/54 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีรายได้จากโรงไฟฟ้าน้ำงึมเข้ามาหนุน
นายพีระวัฒน์ พุ่มทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวางแผนและพัฒนา RATCH กล่าวว่า ภายในปลายปี 54 ถึงต้นปี 55 จะได้ข้อสรุปการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่จำนวน 2 แห่งในภูมิภาคเอเซีย โดยเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้บริษัทมีศักยภาพการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยใช้งบลงทุนของปีนี้ที่ตั้งไว้ทั้งหมด 18,000 ล้านบาท
นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/54 คาดว่ารายได้จะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และดีกว่าไตรมาส 1/54 เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 กำลังการผลิต 615 เมกะวัตต์ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์เมื่อเดือน มี.ค.54 มีปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้ามากกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)สั่งเดินเครื่องตลอด 24 ชม.ส่งผลต่อรายได้ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้าง
"ในไตรมาส 2 ปีนี้รายได้น่าจะเห็นตัวเลขดี โดยเฉพาะจากโครงการน้ำงึม 2 จะมีรายได้อย่างมีนัย โดย 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีการเดินเครื่องการผลิตเต็มตลอด 24 ชั่วโมง"นายนพพล กล่าว
บริษัทเชื่อว่ารายได้ในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะจะมีการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกองทุน Transfield Services Infrastructure Fund (TSIF) อีก 24% ให้เสร็จสิ้นภายใน มิ.ย.-ก.ค.55 จากก่อนหน้านี้ได้ที่ได้ทยอยซื้อหุ้นรวมแล้ว 56.2% ใช้เงินจำนวน 200 ล้านเหรียญออสเตรเลีย ขณะที่มีเป้าหมายจะซื้อหุ้น TSIF เพิ่มเป็น 80% ภายใน 1 ปี
ทั้งนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จากเงินปันผลเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้จะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจใหม่ๆและรายได้ในอนาคตของบริษัท การซื้อกองทุนดังกล่าวจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มอีก 600-700 เมกะวัตต์
ด้านนางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการเงิน RATCH กล่าวว่า บริษัทได้เลื่อนการออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP) มูลค่า 200 ล้านเหรียญออสเตรเลีย เป็นช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งล่าช้าจากเดิมที่คาดว่าจะออกขายในช่วงกลางปีนี้ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเงื่อนไข เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวจะนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทได้ใช้กระแสเงินสดไปซื้อ TSIF