โบรกเกอร์แนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน(ROBINS)คาดกำไรในไตรมาส 2/54 ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะต่ำกว่าในไตรมาสแรกที่ผ่านมา แต่ก็เป็นไปตามฤดูกาล ทั้งปีเชื่อว่ากำไรดีขึ้นจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาและการเติบโตของการเปิดสาขาใหม่ในปลายปีที่พระรามเก้าและพิษณุโลกในไตรมาส 4/54 รวมถึงการเติบโตต่อเนื่องในปีหน้าที่จะเปิดสาขาใหม่ 4 แห่ง
อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์บางส่วนมองว่าราคาหุ้นในช่วงนี้ปรับตัวขึ้นมากแล้ว แนะให้"ถือ"เพื่อรอเงินปันผล และการเติบโตของธุรกิจในครึ่งปีหลังและปีหน้าน่าจะเติบโตมากขึ้น
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท)
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน ซื้อ 44.00
บล.ซิกโก้ ซื้อ 42.00
บล.บัวหลวง ซื้อ 38.00
บล.เกียรตินาคิน ถือ 36.00
บล.ทิสโก้ ถือ 34.00
บล.เอเซียพลัส ถือ 33.25
นายกวี มานิตสุภวงษ์ นักวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส มองว่า ในช่วงครึ่งปีหลังกำลังซื้อยังดีต่อเนื่องจากอานิสงส์การเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่ แต่การกลับมาเปิดของเซ็นทรัลสาขาลาดพร้าวจะทำให้ห้างโรบินสันรัชดาได้รับผลกระทบ ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่ายอดขายสาขาเดิมในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตเหลือเพียง 7-8%
แต่ผลบวกจากการเปิดสาขาใหม่ทั้งสาขาพระรามเก้าและสาขาใหม่พิษณุโลกที่จะเปิด ก.ย.54 และผลบวกจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของบริษัทร่วมทั้ง Super Sport ที่มีแผนเปิด 10 สาขาและ Power Buy ที่ขยายมากสุดในรอบ 5 ปีที่ 18 สาขา จะช่วยหนุนให้กำไรของปี 54 เติบโตได้ 18.1% yoy ตามประมาณการ และคาดมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอีก 14% ในปี 55 จากผลของการรับรู้ยอดขายที่เปิดในปี 54 ทั้ง 3 สาขาที่เปิดในปี 54 เต็มปี และจากแผนเปิดสาขาใหม่ 4 แห่ง คือ สุพรรณบุรี บางนา และบางแค เปิดช่วงต้นปี 55 และสุราษฎร์ธานี เปิดในช่วงไตรมาส 3/55
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.ซิกโก้ คาดกำไรสุทธิ ROBINS ในไตรมาส 2/54 อยู่ที่ 364 ล้านบาท หรือโต 19.9% yoy เหตุผลหลักที่ความเชื่อมั่นในการใช้ของผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นจากในไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่มีปัญหาการเมือง แต่คาดกำไรสุทธิลดลง 5.4%QoQ จากผลของฤดูกาล โดยคาดว่ายอดขายจากสาขาเดิมในไตรมาส 2 นี้เพิ่มขึ้น 14% และมีการเปิดสาขาใหม่ในไตรมาส 4/53 ที่จ.ตรัง และในจ.เชียงราย เมื่อไตรมาส 1/54
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/54 คาดปรับตัวสูงขึ้นอยู่ระดับ 24.3% เพิ่มขึ้นจาก 2Q10A ที่ 23.8% และ 1Q11A ที่ 23.1% ซึ่งเป็นผลมาจากสัดส่วนสินค้า House Brand ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และเน้นทำการตลาดที่ทำให้เกิดการขายแบบ Normal Price มากขึ้น
นอกจากนี้ ROBINS มีแผนขยายสาขาใน 3-5 ปีข้างหน้า ไว้ไม่ต่ำกว่า 3 แห่ง โดย 1 ใน 3 ของสาขาที่เปิดจะมีรูปแบบเป็น Lifestyle Mall (คล้ายสาขาตรัง) ซึ่งมีขนาดพื้นที่เช่าสูง และเหมาะกับเมืองขนาดรองที่ ROBINS เน้นขยายเข้าไปใน 3-5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ SSEC มองว่า จะเป็นผลให้รายได้จากค่าเช่าพื้นที่ของ ROBINS ในอนาคตจะมีสัดส่วนสูงขึ้นต่อเนื่อง
"คงราคาเหมาะสม FY11E เท่ากับ 42.00 บาท ซึ่งคำนวณจากวิธี DCF มี WACC ที่ 7.2% โดยที่ปัจจุบัน ROBINS ยังไม่มีหนี้จากการกู้ยืมเงิน ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการขยายสาขา เป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของรายได้ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ราคาหุ้นปัจจุบันเทียบกับราคาเหมาะสมที่ให้มี Upside Gain เท่ากับ 23.5% Dividend Yield ที่ 1.6% จึงแนะนำ ซื้อ"บทวิเคราะห์ระบุ
นักวิเคราะห์จากบล.เกียรตินาคิน คาดว่า กำไร ROBINS ในไตรมาส 2/54 เพิ่มขึ้น 22% yoy แต่ลดลง 5% qoq เพราะในไตรมาส 2 และในไตรมาส 3 เป็น low season แต่ราคาหุ้นในช่วงนี้ปรับตัวดีขึ้นมาจากความเชื่อมั่นบริโภคในประเทศ
อย่างไรก็ดี คาดว่าหลังจากที่ห้างเซ็นทรัลสาขาลาดพร้าวเปิดตัวในเดือน ก.ย.54 จะทำให้ห้างโรบินสัน สาขารัชดาได้รับผลกระทบ ทำให้คนเข้าห้างน้อยลง อีกทั้งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมามากแล้วทำให้อัพไซด์ราคาหุ้นเหลือน้อยลง จึงแนะนำให้ถือหรือลงทุนหุ้นอื่นในกลุ่มเดียวกัน ได้แก่ BIGC HMPRO