นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)กล่าวว่า รายได้ในไตรมาส 2/54 จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 1/54 เนื่องจากยังมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และยังคงต้องจับตามองเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาในสหรัฐและยุโรปที่อาจส่งผลให้ธุรกิจปิโตรเคมีในครึ่งหลังอาจทรงตัวจากระดับปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยดังกล่าว อาจทำให้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 29 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกบ้าง บริษัทมีสัดส่วนส่งออก 20% จึงกระทบน้อย แต่บริษัทอื่นในกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT)ที่มีการส่งออกมากก็จะได้รับผลกระทบมากกว่า
นายไพรินทร์ กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารในช่วงที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติเงินลงทุนในโครงการฟีนิกซ์อีก 70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ในโครงการผลิตเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ เช่น กรีนเอบีเอสส่วนขยาย จะใช้เวลา 3 ปี แทนการผลิตเม็ดพลาสติกทั่วไป และตั้งแต่เดือน ส.ค.จะประกาศขายใบอนุญาต(ไลเซ่นส์)เทคโนโลยีการผลิตปิโตรเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เม็ดพลาสติก หลังจากที่บริษัทได้วิจัยและพัฒนากรีนโปรดักส์ในช่วงที่ผ่านมา