ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเหตุวิตกหนี้สหรัฐ-กรีซถูกลดเครดิต

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 28, 2011 07:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของสหรัฐ หลังจากการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ยังไม่คืบหน้า นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 267.05 จุด โดยดัชนีร่วงลงไปแล้วกว่า 8.3% นับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3734.07 จุด ลบ 53.81 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7252.68 จุด ลบ 96.77 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5856.58 จุด ลบ 73.15 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากการเจรจาเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้า โดยมีรายงานว่านายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้นำแผนงบประมาณกลับมาทบทวนใหม่ หลังจากสำนักงานงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) เตือนว่า แผนงบประมาณที่วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกันพยายามผลักดันอยู่นั้น จะไม่สามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณได้มากเท่ากับที่ประมาณการไว้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้การลงมติแผนงบประมาณต้องเลื่อนออกไปอีก

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังถูกกดดันหลังจากเอสแอนด์พีประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลง 1 ขั้นสู่ระดับ CC จากระดับ CCC โดยระบุว่า กรีซอาจจะ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน (selective default)" แม้ว่ากรีซได้รับความช่วยเหลือรอบที่สองจากอียูและไอเอ็มเอฟก็ตาม

ก่อนหน้านี้มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือกรีซลง 3 ขั้น สู่ระดับ Ca จาก Caa1 พร้อมระบุว่ากรีซยังคงเผชิญกับความเสี่ยงในการชำระหนี้ระยะสั้นที่รุนแรง และฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลของกรีซลงสู่ระดับ "ผิดนัดชำระหนี้" ซึ่งเป็นผลมาจากแผนการใหม่ของยูโรโซนที่ดึงธนาคารพาณิชย์และภาคเอกชนเข้ามาร่วมแบกรับภาระในการกู้วิกฤติหนี้กรีซ

หุ้นเปอร์โยต์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรปร่วงลง 7.6% แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่สูงขึ้นก็ตาม

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงหนักสุดในบรรดาหุ้น 19 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี Stoxx 600 โดยหุ้นธนาคารซานตานเดร์ร่วงลง 3.2% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรไตรมาส 2 ลดลง 38% หุ้นธนาคารยูนิเครดิต ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของอิตาลี ร่วงลง 4.3% หุ้นอินเทซา ซานเปาโล ดิ่งลง 5.1% หุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิ้ง ร่วงลง 4.3% และหุ้นบังโค คอมเมอร์เชียล โปรตุเกส เอสเอ ร่วงลง 6.7%

หุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ เอสเอ ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่สุดของฝรั่งเศส ร่วงลง 6.9% หลังจากจูปิเตอร์ เน็ตเวิร์คส์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งในสหรัฐ เปิดเผยยอดขายและกำไรที่น้อยเกินคาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ