นายชัยวัฒน์ เครือชะเอม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ถึงความคืบหน้าเรื่องการหยุดประกอบกิจการโรงงานและคลังถ่านหินที่ อ.สวนส้ม จ.สมุทรสาครเป็นการชั่วคราว ตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดว่าในสัปดาห์นี้ทางผู้ว่าฯและคณะจะเข้ามาตรวจสอบโรงงานของบริษัทอย่างเป็นทางการ ซึ่งบริษัทหวังว่าจะสามารถกลับมาประกอบกิจการได้ในเร็วๆนี้
"ทางผู้ว่าฯจะเข้ามาตรวจสอบที่โรงงานในสัปดาห์นี้ คิดว่าปัญหาน่าจะจบ เพราะเราก็ไม่ได้ผิดอะไร ชาวบ้านรอบโรงงานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่คำสั่งสั่งปิดไปเลยทุกโรงงานมันก็ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ เพราะที่เราทำงานใบอนุญาตเราก็มีทุกใบ และเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เราทำธุรกิจตรงไปตรงมา เชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพียงแต่ว่าคำสั่งผู้ว่าฯที่ปิดครั้งนี้ ทางจังหวัดอาจจะยังไม่ได้เข้ามาดูให้ชัดเจนก่อน ซึ่งอาทิตย์นี้ทางจังหวัดจะเข้ามาดูก็คงจะเห็นภาพชัดขึ้น"นายชัยวัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การที่โรงงานสมุทรสาครต้องหยุดดำเนินกิจการชั่วคราวนั้น ขณะนี้ไม่กระทบต่อกำลังการผลิตในภาพรวม เพราะบริษัทได้มีการย้ายสายการผลิตจากสุมทรสาครไปที่โรงงานและคลังสินค้าที่ จ.อยุธยาแทน แม้ว่าจะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้นบ้าง และทำให้ต้องมีการปรับเพิ่มราคาขายขึ้นเล็กน้อย แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เข้าใจ
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้รวมปี 54 (ต.ค.53-ก.ย.54) จะเติบโตตามเป้าที่ 20% จากปีก่อนที่ทำมีรายได้ 2.1 พันล้านบาท
ส่วนกรณีที่นายทองนาค เสวกจินดา หนึ่งในแกนนำต่อต้านโรงงานถ่านหินในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้นไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทเพราะอยู่คนละพื้นที่กัน โดยคลังสินค้าของบริษัทตั้งอยู่ที่ ต.ชัยมงคล และท่าเรืออยู่ที่ ต.สวนส้ม
"เรื่องที่มีแกนนำถูกยิง ไม่เกี่ยวกับเราอยู่แล้ว อยู่คนละพื้นที่กัน ส่วนจะทำให้ปัญหาลุกลามหรือล่าช้าออกไปอีกไหม ก็ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่"นายชัยวัฒน์ กล่าว