นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้า AUM ภายในสิ้นปี 54 ที่ 20,000 ล้านบาท แม้ครึ่งปีแรกมี AUM อยู่ที่ 17,000 ล้านบาท ลดลง 3% จากสิ้นปี 53 ที่มี AUM ที่ 17,300 ล้านบาท เนื่องจากมีกองทุนที่ครบอายุ จำนวน 3 กองทุน ประกอบ ราคาหุ้นที่ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อ AUM ให้ดีขึ้นด้วย
ดัชนีตลาดหุ้นไทยจนถึงสิ้นปีนี้ คาดว่าอยู่ที่ 1,200 จุด และปี 54 จะเพิ่มเป็น 1,300 จุด เนื่องจากมองว่าเงินทุนต่างชาติจะให้ความสำคัญในตลาดหุ้นจีนมากกว่า เนื่องจาก upside ของตลาดหุ้นไทยมีไม่มาก เนื่อง P/E สูงถึง 13 เท่า เมื่อเทียบตลาดหุ้นจีนที่มี P/E 10 เท่า และตลาดหุ้นไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้ปรับขึ้นต่อเนื่องมาถึง 100%
"ตอนนี้มองว่าตลาดหุ้นในเอเซียน่าลงทุนสูง เติบโตเฉลี่ย 7% โดยจีนยังเป็นประเทศที่น่าสนใจ เพราะยังมี room ที่น่าลงทุนได้ ทั้งพีอีที่ถูก แม้จะมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ แต่เชื่อว่าไตรมาส 3/54 ปัญหาจะคลี่คลาย จากการที่ทางการเข้าช่วยเหลือ... ส่วนตลาดหุ้นไทย ผมว่าตอนนี้ขึ้นมาเยอะและเป็นคำถามว่าหุ้นไทยจะขึ้นได้หรือไม่ เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาขึ้นสูงถึง 100%" นายธีรนาถ กล่าว
นายธีรนาถ กล่าวอีกว่า จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมีแผนออกกองทุนเปิดทิสโก้ ไชน่า ลิงก์ ฟันด์ 4 เป็นกองทุนที่อ้างอิงดัชนีหุ้นจีน อายุโครงการ 1 ปี 6 เดือน มีมูลค่า 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทน 15% เสนอขาย 1-8 ส.ค.54 โดยความน่าสนใจลงทุน เนื่องจากเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนโดยไม่กังวลกับความผันผวน และคุ้มครองเงินต้น
ทั้งนี้ มองภาพรวมเศรษฐกิจจีนมีความโดดเด่น คาดว่าอัตราการเติบโตเศรษฐกิจจีน อยู่ที่ 9-9.5% ส่วนเงินเฟ้อน่าจะควบคุมได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนฐานะการคลังยังแข็งแกร่ง ไม่มีปัญหาหนี้สาธารณะเหมือนประเทศแถบยุโรป ขณะที่ P/E ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 8-9 เท่า จากอดีตอยู่ที่ 14 เท่า และหากปัญหาเงินเฟ้อในจีนคลี่คลาย มีโอกาสทำให้ P/E ปรับสูงขึ้นและเป็นผลดีต่อกองทุน