นักวิเคราะห์บล.เอเซีย พลัส วิเคราะห์ว่า จากรายงานว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นของ Formosa Petrochemical Corp (FPCC) ในแหล่ง Mailiao ตอนใต้ของไต้หวัน ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.54 ถือเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีในภูมิภาค เพราะจะทำให้ Supply บางส่วนหายไปจากตลาด โดยแบ่งผลกระทบตามกลุ่มได้เป็นกลุ่มโรงกลั่น คาดค่าการกลั่นโดยรวมอาจดีดตัวขึ้นได้ในระยะสั้น เนื่องจากกำลังการกลั่นหายไปราว 5.4 แสนบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 2.5% ของกำลังการผลิตในภูมิภาค
นอกจากนี้ Formosa ยังถือเป็นผู้ประกอบการที่ส่งออกก๊าซออยล์(ดีเซล, เจ็ท) และก๊าซโซลีน(เบนซีน)รายใหญ่ในภูมิภาค ซึ่งการ Shutdown ดังกล่าวทำให้ไม่มีผลิตภัณฑ์ส่งออกในเดือน ส.ค. 2554 โดยล่าสุดค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ดีดตัวขึ้นมาอยู่ในระดับ 10 เหรียญฯต่อบาร์เรล จากที่ผ่านมาอยู่ที่ 6-8 เหรียญฯต่อบาร์เรล
รวมทั้งกลุ่มปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ที่กังวลว่าจะเกิดผลกระทบจากการขาดแคลนวัตถุดิบแนฟทาจากโรงกลั่นถือว่าค่อนข้างจำกัด เนื่องจากก่อนหน้านี้โรงงานแนฟทาแครกเกอร์ หน่วยที่ 1 ของบมจ.ปตท.เคมิคอล (PTTCH)ได้หยุดผลิตอยู่แล้วตั้งแต่เดือน พ.ค. 2554 อีกทั้งหน่วยที่ 3 มีแผนที่จะหยุดซ่อมบำรุงในช่วงกลางเดือน ส.ค. 2554 มีเพียงหน่วยที่ 2 ที่จะต้องซื้อวัตถุดิบแนฟทาเข้ามาผลิต
อย่างไรก็ตาม การหยุดเดินเครื่องของโรงงานแนฟทาแครกเกอร์ทั้งหน่วยที่ 1 และ 3 รวมถึงผลิตภัณฑ์ขั้นปลายที่ต้องหยุดผลิตจากการขาดแคลนวัตถุดิบดังกล่าวข้างต้น ส่งผลให้ Supply ผลิตภัณฑ์สายโอเลฟินส์ในตลาดลดลง ขณะที่ Demand มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงการเก็บสต๊อกผลิตภัณฑ์เพื่อไว้ใช้ผลิตในช่วงเทศกาลปลายปี (Re-Stocking) ซึ่งจะผลักดันราคาผลิตภัณฑ์โดยรวมให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะราคาโพรพิลีนที่คาดว่าจะดีดตัวอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับกลุ่มปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์คาดราคาและ Spread ผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์จะดีดตัวขึ้นในระยะสั้นจากการปิดโรงงานโรงงานอะโรเมติกส์ 1 หน่วยก่อนหน้านี้ รวมถึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกปิดหน่วยผลิตที่เหลืออยู่จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ ซึ่งอาจทำให้ Supply ในตลาดลดลง ขณะที่ Demand ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเนื่องจากโรงงาน PTA (ใช้ PX เป็นวัตถุดิบ) ใหม่ในจีนทยอยแล้วเสร็จเชิงพาณิชย์
ฝ่ายวิจัยคงมุมมองบวกต่อธุรกิจปิโตรเคมีในระยะ 1-2 ปี ข้างหน้า อีกทั้งระยะสั้นคาดประเด็นไฟไหม้ Formosa จะส่งผลให้ Supply โดยรวมทั้งในส่วนของโรงกลั่น และปิโตรเคมี หายไปจากตลาด ซึ่งจะผลักดันค่าการกลั่น และราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีดีดตัวขึ้นในระยะสั้น
และยังคงเลือกเลือก PTTCH ราคาเป้าหมาย 206.59 บาท และ PTTAR ราคาเป้าหมาย 52 บาท เป็นหุ้น Top Picks และยังคงคำแนะนำซื้อสำหรับ TOP ราคาเป้าหมาย 100.20 บาท ESSO ราคาเป้าหมาย 15.74 บาท IRPC ราคาเป้าหมาย 7.16 บาท ส่วน BCP ราคาเป้าหมาย 24.13 บาทแนะนำซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว