โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา(CENTEL)คาดผลประกอบการงวดไตรมาส 2/54 จะพลิกเป็นกำไรอยู่ในช่วง 42-52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน(Q2/53)ที่ขาดทุน 205 ล้านบาท
ส่วนในช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/54)มองว่าผลประกอบการของ CENTEL จะออกมาดีมาก เพราะได้เข้าสู่ช่วงฤดู High Season ด้วย โดยเฉพาะในไตรมาส 4/54 และยังมีรายได้เพิ่มจากการเข้าซื้อ Ootoya ซึ่งจะเพิ่มรายได้ประมาณ 200 ล้านบาทในปี 2554 (4 เดือน) และ 720 ล้านบาทในปี 2555
อย่างไรก็ดี มีบางโบรกเกอร์มองว่า ไตรมาส 3/54 ธุรกิจโรงแรมยังชะลอตัวอยู่ และ CENTEL ก็อาจมีการบันทึกการตั้งสำรองของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ สมุย เนื่องจากได้ Commit ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้น ดังนั้น หากไม่เป็นไปตามนั้นกับผู้ถือหุ้น ทาง CENTEL ก็จะต้องจ่ายชดเชยให้ผู้ถือหุ้นไปแทน ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่
ทั้งนี้ หากพิจารณาผลประกอบการทั้งปีนี้(2554)คาดว่าจะพลิกกลับมาเป็นกำไร โดยคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ที่ 725 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2553)ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 51 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจของ CENTEL ได้กลับมาเป็นปกติ ขณะที่ปีที่แล้วมีการปิดโรงแรม
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) Merrill Lynch ซื้อ 13.70 บล.กสิกรไทย ซื้อ 14.00 บล.ภัทร ซื้อ 13.70 บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 13.45 บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 12.50 บล.บัวหลวง ซื้อเก็งกำไร 12.00 บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ถือ 12.00
Merrill Lynch(ML) แนะนำ"ซื้อ"หุ้น CENTEL ให้ราคาเป้าหมาย 13.7 บาท/หุ้น เนื่องจากคาดกำไร 2Q11 ที่ 52 ลบ. ปรับตัวขึ้นจากขาดทุนเมื่อ 2Q10 โดยยอดพักอาศัยปรับตัวขึ้นสู่ 58% ในช่วง 2Q11, ADR ปรับตัวขึ้น 15%YoY ธุรกิจร้านอาหารเติบโตแข็งแกร่ง และการเข้าซื้อ Ootoya จะเพิ่มรายได้ประมาณ 200 ลบ.ในปี 11 (4 เดือน) และ 720 ลบ.ในปี 12
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยไทย บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ได้แนะนำ"ซื้อ"หุ้น CENTEL ด้วยราคาเป้าหมาย 13.45 บาท/หุ้น เนื่องจากมองว่าปีนี้ผลการดำเนินงานของ CENTEL จะพลิกกลับมาเป็นกำไร โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิปีนี้(2554)ที่ 725 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2553)ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 51 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้ธุรกิจของ CENTEL ได้กลับมาเป็นปกติ จากปีที่แล้วมีการปิดโรงแรม
ในส่วนของผลประกอบการงวดไตรมาส 2/54 ก็จะได้เห็นผลกำไรแล้ว โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว(Q2/53)ที่มีผลขาดทุน 205 ล้านบาท อีกทั้ง CENTEL ได้มีการเพิ่ม Brand อาหารอีก 1 อย่างคือ "OOTOYA" ก็จะมาช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ CENTEL อีกด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/54)มองว่าผลประกอบการของ CENTEL จะออกมาดีมาก เพราะได้เข้าสู่ช่วงฤดู High Season ด้วย โดยเฉพาะในไตรมาส 4/54
ส่วน น.ส.ปรียนันท์ ตรีเพ็ชรชูพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันได้แนะนำ"ถือ"หุ้น CENTEL เนื่องจากราคาหุ้นในขณะนี้ไม่ถูกแล้ว เทรด P/E 21-22 เท่า ส่วนราคาเป้าหมายให้ไว้ที่ 12 บาท/หุ้น ทั้งนี้มองว่าผลการดำเนินงานของ CENTEL ทั้งปีจะมีการเติบโตต่อเนื่อง
เพียงแต่ในไตรมาส 2/54 และไตรมาส 3/54 ผลการดำเนินงานอาจจะยังชะลอตัว โดยคาดว่ากำไรในไตรมาส 2/54 จะมีอยู่ 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน(Q2/53)ที่มีผลขาดทุนกว่า 200 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3/54 มองว่าธุรกิจโรงแรมยังชะลอตัวอยู่ และ CENTEL ก็อาจมีการบันทึกการตั้งสำรองของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ สมุย เนื่องจาก CENTEL ได้มีการ Commit ในส่วนของผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้น ดังนั้น หากผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่ได้ Commit กับผู้ถือหุ้น ทาง CENTEL ก็จะต้องจ่ายชดเชยให้ผู้ถือหุ้นไปแทน ซึ่งตอนนี้เรื่องนี้ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่
สำหรับงวดไตรมาส 4/54 แม้ว่าผลประกอบการคาดว่าจะออกมาดี เพราะเป็นช่วง High Season แต่ก็เชื่อว่าคงจะไม่ดีเท่ากับงวดไตรมาส 1/54 พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2554)ไว้ที่ 725 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2553)ที่มีผลขาดทุน