ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าร่วง 2.89% ตามภูมิภาค กังวลเศรษฐกิจสหรัฐหลังถูกหั่นเครดิต

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 8, 2011 12:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,061.77 จุด ลดลง 31.61 จุด(-2.89%)มูลค่าการซื้อขาย 19,692.40 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดช่วงเช้าจากความวิตกสถานการณ์สหรัฐหลัง S&P ลดเครดิต กดดันตลาดหุ้นภูมิภาคร่วง 3-5% จับตาเม็ดเงินต่างชาติหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น อาจเห็นต่างชาติขายต่อ มองแนวรับ 1,060 -1,050 จุด แนวต้าน 1,070-1,078 จุด

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยเช้าวันนี้ปิดที่ระดับ 1,061.77 จุด ลดลง 31.61 จุด(-2.89%)มูลค่าการซื้อขาย19,692.40 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,078.13 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,061.69 จุด

นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล. ฟิลลิป กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ค่อนข้างผันผวนในแดนลบตามตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลดลงเฉลี่ย 3-5% โดยตลาดหุ้นไทยยังได้แรงประคองจากงบการเงินไตรมาส 2/54 ของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยประกาศออกมาส่วนใหญ่ปรับตัวดีชึ้น ช่วยให้เกิดแรงซื้อเข้ามาบ้างช่วงสั้น ดัชนีจึงไม่ลงไปลึกมาก

แต่ในระยะยาวเชื่อว่ายังผันผวนต่อเนื่อง โดยปัจจัยกดดันเกิดจากสหรัฐถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจากlสถาบันจัดอันดับสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P)จาก AAA สู่ AA+ เนื่องจากความกังวลการขาดดุลงบประมาณและภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ แต่ทั้งนี้จะต้องรอประเมินสถานการณ์การประชุดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันที 9 ส.ค นี้ว่าจะมีมาตราการช่วยเหลือหรือไม่ หากมีมาตราการสนับสนุนเพิ่มเติมก็มีโอกาสที่ทำให้ตลาดรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง

ส่วนปัจจัยในประเทศ ไม่มีเรื่องที่น่ากังวล แต่แนะนำให้จับตาเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เพราะเมื่อวันที่ 5 ส.ค 54 ขายสุทธิถึง 6 พันล้านบาท ถือว่าค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับยอดการซื้อสะสม 5 หมื่นล้านบาท หากปัจจัยต่างประเทศยังไม่ดีต่างชาติก็ยังมีโอกาสขายต่อเนื่อง

"ตลาดวันนี้ปรับลงแรง แต่ก็เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้แล้ว เราปรับลดลง แต่ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่ปรับลงเยอะ เราได้กำไรบจ.ที่ประกาศงบ Q2 ช่วยประคอง แต่ก็ไม่มากเพราะปัจจัยต่างประเทศที่เกิดขึ้นเป็นภาพใหญ่กว่า"นางสาวธีรดา กล่าว

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในแดนลบ แต่คงลบน้อยลง โดยมองโอกาสที่ตลาดจะรีบาวด์ได้แต่หลังจากวันที 9 ส.ค 54 ขึ้นกับทีท่าของเฟด โดยช่วงนี้แนะนำให้นักลงทุนลดพอร์ตลงทุน และถือเงินสดในสัดส่วนที่มาก ให้แนวรับที่ 1,060 -1,050 จุด แนวต้าน 1,070-1,078 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,631.51 ล้านบาท ปิดที่ 318.00 บาท ลดลง 12.00 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,188.53 ล้านบาท ปิดที่ 688.00 บาท ลดลง 16.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,013.72 ล้านบาท ปิดที่ 127.00 บาท ลดลง 5.50 บาท

IVL มูลค่าการซื้อขาย 781.51 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท ลดลง 2.75 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 758.20 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท ลดลง 5.00 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ