นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เปิดเผยว่าแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าความต้องการในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก ดังนั้นจะส่งผลให้ บริษัทได้รับผลบวกตามไปด้วย โดยเฉพาะไตรมาส 3/2554 ที่ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่จะมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากงานรับก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จาก บริษัท โซลาร์ต้า จำกัด ขนาด 8 เมกกะวัตต์ รวมถึงงานด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 30.9 เมกกะวัตต์ ของบริษัทย่อย คือ บริษัท กันกุลเพาเวอร์เจน จำกัด ที่เปิดเฟสแรกแล้ว และเฟส 2 ที่มีกำลังการผลิตขนาด 4.4 เมกกะวัตต์ ณ อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ บริษัทจะดำเนินการเชื่อมเข้าสู่ระบบ เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าในปลายเดือนสิงหาคม 2554 และจะสามารถจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ในวันที่ 1 กันยายน 2554
สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก บริษัทมีกำไรสุทธิ 110.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 263.63% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และกลุ่มบริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 1,095.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96.50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ แบ่งเป็นรายได้จากการขายภายในประเทศ ที่เพิ่มขึ้น 27.40 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.88 % รายได้จากการขายต่างประเทศเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 469.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 154.88% รายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า 28.05 ล้านบาท ซึ่งได้บันทึกเข้ามาเป็นปีแรก ส่วนรายได้อื่นๆ อยู่ที่ 12.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 490.53%
"ตัวเลขผลงานงวด 6 เดือนของกลุ่มบริษัท GUNKULที่ประกาศออกมานั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจอย่างยิ่ง โดยอัตรากำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งปีแรกนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 26.03% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 24.64% คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 5.64%" นางสาวโศภชา กล่าว