ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,042.54 จุด ลดลง 35.65 จุด(-3.31%) มูลค่าการซื้อขาย 63,606.85 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดร่วงไปกว่า 3% หลังจากนั้นก็เด้งขึ้นในแดนลบได้บ้าง ภาพโดยรวมดัชนีฯยังคงแกว่งในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,071.95 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,033.38 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 57 หลักทรัพย์ ลดลง 581 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 65 หลักทรัพย์
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงทั่วหน้า เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในยุโรปที่บ่ายนี้เปิดมาก็ปรับตัวลงเฉลี่ยประมาณ 4% โดยตลาดยุโรปจะเห็นได้ว่ากลุ่มการเงินได้ปรับตัวลงแรง เนื่องจากกังวลในเรื่องการตั้งสำรองฯ และการเพิ่มทุน โดยเฉพาะ RBS(Royal Bank of Scotchland)ได้ปรับตัวลง 7-8%
นอกจากนี้ ตลาดฯยังให้ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และเช้านี้จีนก็ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ทั้งนี้ จากความกังวลเศรษฐกิจทั่วโลกที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิด Panic Sell แล้วโยกเม็ดเงินลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างทองแทน
อย่างไรก็ดี ให้จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในคืนนี้ ว่าประธานเฟดจะมีถ้อยแถลงอะไรออกมาหรือเปล่า โดยเฉพาะรอดูเรื่องมาตรการความช่วยเหลือว่าจะมีหรือเปล่า
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(10 ส.ค.)นายภาดล กล่าวว่า เวลานี้ทั่วโลกเกิด Panic Sell ทำให้คาดการณ์ได้ยากว่าตลาดฯจะเป็นอย่างไร ซึ่งคงจะต้องขึ้นอยู่กับตลาดสหรัฐฯด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,020-1,000 จุด แนวต้าน 1,060 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BBL มูลค่าการซื้อขาย 4,706.68 ล้านบาท ปิดที่ 155.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,584.51 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ลดลง 5.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,409.05 ล้านบาท ปิดที่ 311.00 บาท ลดลง 11.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,144.35 ล้านบาท ปิดที่ 117.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 2,938.98 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 7.50 บาท