ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์พุ่ง 429.92 จุดหลังเฟดประกาศตรึงดบ.ต่ำอีก 2 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 10, 2011 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีก 2 ปี ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่ตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากข่าวสหรัฐถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 429.92 จุด หรือ 4% ปิดที่ 11239.77 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1172.53 จุด หรือ 4.7% ปรับตัวขึ้น 53.07 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 2482.52 จุด หรือ 5.3% พุ่งขึ้น 124.83 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ 9.2 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วนเกือบ 12 ต่อ 1

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ อันเนื่องมาจากข่าวเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากกระดับ AAA โดยสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้มาจากแถลงการณ์ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ที่ระบุว่า เฟดจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงกลางปี 2556 เมื่อพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงอัตราการนำทรัพยากรมาใช้ในระดับต่ำและอัตราเงินเฟ้อที่ยังสามารถควบคุมได้

ในการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวานนี้ คณะกรรมการเฟดมีมติ คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25% พร้อมระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ชะลอตัวลง และการลงทุนนอกภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงอ่อนแอ

นักวิเคราะห์จากแบล็คร็อคกล่าวว่า การที่เฟดตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก 2 ปีนั้น ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และถือเป็นการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในทางอ้อม หลังจากที่เฟดได้เสร็จสิ้นการใช้มาตรการ QE2 ไปเมื่อช่วงปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปรับตัวขึ้นอีกเนื่องจากนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงนั้น ไม่ได้ทำให้กำไรในภาคเอกชนได้รับผลกระทบมากเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดเกือบ 10% ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น 8.2% หุ้นกลุ่มวัสดุทะยานขึ้น 5.9% โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 16.7% หุ้นอัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้น 8% ส่วนหุ้นเอ็มอีเอ็มซี อิเล็กทรอนิก มาเทเรียลส์ พุ่งขึ้น 19.1%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ วันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนมิ.ย., กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนก.ค. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมิ.ย.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนส.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ