ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับเฟดให้คำมั่นคงอัตราดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 10, 2011 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 วันทำการวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐให้คำมั่นว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับศูนย์ไปจนถึงกลางปี 2556

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,110.81 จุด เพิ่มขึ้น 166.33 จุด ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,993.78 จุด เพิ่มขึ้น 663.08 จุด สำหรับดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดดีดตัวขึ้น 1.44% มาอยู่ที่ 2,562.39 จุด ส่วนดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,717.58 จุด เพิ่มขึ้น 224.46 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,877.40 จุด เพิ่มขึ้น 76.05 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,073.10 จุด เพิ่มขึ้น 38.30 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,903.95 จุด เพิ่มขึ้น 19.95 จุด

ดัชนี MSCI Asia Pacific พุ่ง 1.6% เมื่อเวลา 9.42 น.ตามเวลาท้องถิ่นในญี่ปุ่น

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนรู้สึกผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่ หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวส่งผลให้สัญญาน้ำมัน NYMEX ร่วงลงหลุดจากแนวรับที่ระดับ 80 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 2.01 ดอลลาร์ หรือ 2.47% ปิดที่ 79.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25 % ในการประชุมเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) พร้อมประกาศว่าจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงกลางปี 2556 นอกจากนี้ เฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ได้ปรับลดการประเมินเศรษฐกิจลงจากที่ประเมินไว้ในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย. โดยกล่าวว่า "การขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลงมากกว่าที่คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีคาดการณ์ไว้ โดยตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอตัวลง และการลงทุนนอกภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงอ่อนแอ ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังคงซบเซาเช่นกัน นอกจากนี้ สภาวะในตลาดแรงงานย่ำแย่ลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และอัตราการว่างงานปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนด้านอุปกรณ์สำนักงานและซอฟแวร์ในภาคเอกชนยังคงมีการขยายตัว"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ