นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร (TK) เปิดเผยว่า คณะผู้บริหารได้ติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยได้เล็งเห็นถึงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นของตลาดการเงินโลก ทั้งนี้ ได้ออกเครื่องมือทางการเงินเพื่อรักษาระดับต้นทุนทางการเงินให้คงที่และจัดโครงสร้างอายุของแหล่งเงินทุนให้สอดคล้องกับธุรกิจของบริษัท ดังนั้นความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยซึ่งเกิดจากวิกฤติการเงินครั้งนี้ จะไม่กระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ
เนื่องจาก ผู้บริหารได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนเมษายน ให้ออกหุ้นกู้วงเงิน 2,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 10 ปีนับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้ในแต่ละคราว โดยอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในขณะที่ออกและเสนอขายหุ้นกู้
อนึ่ง ตั้งแต่ปี 53 จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้ออกหุ้นกู้และกู้เงินระยะยาวจากสถาบันการเงินจำนวน 3,950 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ยประมาณ 4% ระยะเวลา 3-5 ปี ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนเงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่กว่า 90% คาดว่าอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในอีก 3-5 ปีข้างหน้านี้ ในทางกลับกันภาวะดอกเบี้ยที่ให้เช่าซื้อมีแนวโน้มสูงขึ้นตามภาวะตลาดจะทำให้บริษัทมีโอกาสได้รับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้น บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อพร้อมใช้กับสถาบันการเงินต่างๆ กว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้บริษัทมีความพร้อมในการขยายธุรกิจตามเป้าหมาย 20% ของบริษัทในปี 54 และต่อเนื่องจนถึงปี 55
นางสาวปฐมา กล่าวว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยในปีนี้ไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางการเงินโลกครั้งนี้ โดยล่าสุดบริษัท เอพีฮอนด้า จำกัด ได้แจ้งภาวะอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในไตรมาส 2 ที่มีการขยายตัวถึง 16% และได้มีการคาดหมายว่าจะมียอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทะลุ 2 ล้านคันในปีนี้
นอกจากนี้ภาวะความผันผวนทางการเงินครั้งนี้ จะส่งผลต่อสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆให้ปรับตัวสูงขึ้น เพราะนักลงทุนลดการถือครองเงินดอลลาร์ และหันมาลงทุนในตลาดสินค้าโลหะมีค่า และสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาพืชผลทางการเกษตรของประเทศไทย และเมื่อผนวกกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่อาทิโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร การปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท หรือเงินเดือน 15,000 บาทสำหรับปริญญาตรี จะทำให้เงินจำนวนมากสะพัดเข้าไปในกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวข้องในภาคเกษตรกรรมและลูกค้าที่อยู่ในภาคธุรกิจอย่างรวดเร็ว
"คาดว่าจะส่งผลให้ลูกค้ามีกำลังผ่อนชำระค่างวดมากขึ้น และมีความสม่ำเสมอในการผ่อน ซึ่งจะส่งผลถึงคุณภาพลูกหนี้ของบริษัทกว่า 8,000 ล้านบาท มีความมั่นคงและปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพลดลง ในทางการแข่งขันทางตลาดในช่วงครี่งปีหลังคงจะมีความรุนแรงมากขึ้น โดยบริษัทจะยังคงเน้นนโยบายการให้สินเชื่ออย่างระมัดระวังต่อไป ทั้งนี้ปัจจัยบวกอีกตัวหนึ่งก็คือ ผู้ผลิตสินค้า ไม่ว่าจะเป็นฮอนด้าหรือยามาฮ่า คงจะมีสินค้าใหม่ออกมากระตุ้นกำลังในช่วงครึ่งปีหลังอย่างแน่นอน" นางสาวปฐมา กล่าว