SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,062.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.86 จุด(+0.18%)มูลค่าการซื้อขาย 30,361.98 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวในแดนบวกแข็งแกร่งสวนทางปัจจัยลบต่างประเทศทั้งสหรัฐและยุโรป โดยตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากงบการเงินบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/54 ออกมาดี เชื่อต่างชาติยังคงทยอยเข้าลงทุน 1-2 เดือนข้างหน้า มองสัปดาห์หน้ามีโอกาสผันผวนพร้อมให้แนวรับ1,040-1,050 จุด ส่วนแนวต้าน 1,100 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,062.07 จุด เพิ่มขึ้น 1.86 จุด(+0.18%)มูลค่าการซื้อขาย 30,361.98ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ระดับ 1,063.41 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,054.03 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 253 หลักทรัพย์ ลดลง 242 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 116 หลักทรัพย์
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ แต่ถือว่าแข็งแกร่งภายใต้ปัจจัยลบต่างประเทศ โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนที่ปรับลดลงแรง ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากช่วง 2-3 วันตลาดหุ้นปรับลดลงแรงสะท้อนปัจจัยด้านจิตวิทยาการลงทุนลงมาทดสอบที่ระดับ 1,048 จุด
การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ในแดนบวกน่าจะเกิดจากแรงสนับสนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในไตรมาส 2/54 ที่ส่วนใหญ่ออกมาดี นอกจากนี้ มองว่าการที่สถานการณ์เศรษฐกิจทั้งยุโรป-สหรัฐมีปัญหาอ่อนแอจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นภูมิภาค รวมทั้งตลาดหุ้นไทย เพราะ Fund Flow จะไหลเข้ามามากขึ้นในช่วง 1 - 2 เดือนข้างหน้า
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ต้องติดตามนโยบายบริหารประเทศของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนในช่วงสั้น แต่ในทางปฎิบัติต้องติดตามปัจจัยต่างประเทศต่อไป เพราะจะส่งผลทำให้เกิดความผันผวนได้
"ตลาดในเดือนนี้ยังผันผวนได้จากปัจจัยต่างประเทศที่คงยังไม่จบ แม้ในประเทศเราจะดี แต่ภายใต้ที่ 2 ประเทศอ่อนแอกลับเป็นโอกาสที่ดีของตลาดหุ้นไทย ที่ทำให้มีเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามา"นายปริญทร์ กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า(15 ส.ค.)นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่งตัวในกรอบแคบ และแนะนำให้ติดตามผลประกอบการบจ.ที่จะมีการประกาศงบการเงินไตรมาส 2/54 วันสุดท้าย แต่ก็เชื่อว่ายังแข็งแกร่งตามการเติบโตของจีดีพี พร้อมให้แนวรับไว้ในช่วง 1,040-1,050 จุด ส่วนแนวต้าน 1,100 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,925.22 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,779.05 ล้านบาท ปิดที่ 315.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,471.56 ล้านบาท ปิดที่ 116.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,384.14 ล้านบาท ปิดที่ 674.00 บาท ลดลง 12.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,245.34 ล้านบาท ปิดที่ 31.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท