ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (11 ส.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะไม่กลับเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสยังช่วยกระตุ้นแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มพลังงานด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 423.37 จุด หรือ 3.95% ปิดที่ 11,143.31 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 51.88 จุด หรือ 4.63% ปิดที่ 1,172.64 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 111.63 จุด หรือ 4.69% ปิดที่ 2,492.68 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 400 จุดหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ส.ค.ร่วงลง 7,000 ราย สู่ระดับ 395,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 400,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ร่วงลง 3,250 ราย สู่ระดับ 405,000 ราย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จำนวนคนว่างงานที่ลดลงอย่างมากในรอบสัปดาห์ที่แล้วนั้น ช่วยให้นักลงทุนคลายจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป และยังมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่กลับเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดแรงงานจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวเร็วขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของยูโรโซน จะจัดประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้าเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาด้านการเงินในยุโรป ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทางการสวิสเซอร์แลนด์อาจจะผูกติดเงินฟรังค์เข้ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากหลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจเข้าแทรกแซงตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งสกุลเงินฟรังค์ไม่ให้แข็งค่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากข่าวลือที่ว่าฝรั่งเศสอาจจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ หลังจากต้นทุนการประกันการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรประเภท Credit-default swaps (CDS) ของรัฐบาลฝรั่งเศสพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.75% ซึ่งสูงกว่าต้นทุนรับประกันตราสารหนี้ของเยอรมนีซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.86%
หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ อิงค์ ทะยานขึ้น 16% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรรายไตรมาสที่สูงเกินคาด ขณะที่หุ้นในกลุ่มสื่อนั้น หุ้นฟ็อกซ์นิวส์ และหุ้นวอลล์สตรีท เจอร์นัล พุ่งขึ้นกว่า 18% หลังจากผลประกอบการของทั้งสองบริษัทปรับตัวสูงกว่าการคาดการณ์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนส.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.