บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/54 ขาดทุน 7,874 ล้านบาท จากไตรมาส 2/53ที่มีกำไรสุทธิ 1,401 ล้านบาท แม้ว่า รายได้จากการขายหรือให้บริการเพิ่มขึ้น 14.9% เป็น 4.56 หมื่นล้านบาท แต่เนื่องจากราคาน้ำมันเครื่องบินโดยเฉลี่ยสูงขึ้น 46.2% และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 2,265 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 4,391 ล้านบาท เป็นผลให้ขาดทุนก่อนหักภาษี 8,224 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนทีมีกำไร 1,895 ล้านบาท
ทั้งนี้ในไตรมาส 2 ปี 54 ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (low season) ซึ่งมีผู้โดยสารเดินทางน้อย และเศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.54) บริษัทขาดทุนก่อนอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีเงินได้ 1,847 ล้านบาท เปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 53 ที่มีกำไรก่อนอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีเงินได้ 2,897 ล้านบาท สาเหตุสำคัญเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสุงขึ้นอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง ในขณะที่การแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรงทำให้บริษัทไม่สามารถปรับค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมัน ให้ครอบคลุมกับค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้ ทำให้ค่าน้ำมันเพิ่มสูงชึ้น กว่ารายได้รวมของบริษัทที่เพิ่มขึ้น มาที่ 97,410 ล้านบาท ผ+8.9%)
นอกจากนี้ในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 5,623 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวด 6 เดือนปี 53 ซึ่งมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 10,090 ล้านบาท เป็นผลให้บริษัทขาดทุน 7,256 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 3.32 บาท เปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกปี 53 ที่มีกำไรสุทธิ 11,973 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 7.05 บาท