นายวิชา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้าการเติบโตรายได้ในปี 54 เพิ่มเป็น 20-25% จากเป้าหมายเดิมที่ 10-15% เนื่องจากในช่วง 6 เดือนเติบโตแล้ว 42% โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากยอดขายตั๋วภาพยนตร์ ที่ในปีนี้มีหนังใหม่เข้ามาฉายจำนวนมาก และเป็นภาพยนตร์ที่สร้างรายได้สูง เช่น TRANSFORMERS 3, Harry Potter เป็นต้น อีกทั้งภาพยนตร์ที่ฉายส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบ 3 มิติ ซึ่งมีมาร์จิ้นสูง ส่งผลต่อกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นด้วยส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 54 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%
ทั้งนี้มองว่ารายได้ในไตรมาส 3/54 ก็จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 2/54 จากภาพยนตร์ใหม่ที่เข้าฉาย และเป็นฟอร์มยักษ์ ส่วนการปรับค่าตั๋วหนังในช่วงครึ่งแรกได้ปรับแล้วเฉลี่ย 5 % และประเมินจะไม่มีการปรับเพิ่มในครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม ในปี 55 ตั้งงบลงทุนในประเทศไม่ต่ำกว่า 600-700 ล้านบาท โดยใช้ลงทุนในการเปิดโรงหนังใหม่จำนวน 16 โรง ที่อิเกียบางนา ซึ่งมีพื้นที่ 2 หมื่นตารางเมตร ซึ่งจะมีทั้งโบว์ลิ่ง และไอซ์สเกต และคาราโอเกะ และที่ซีคอนสแควส์ บางแค จำนวน 10 โรง โดยบริษัทตั้งเป้าในการเปิดโรงหนัง 380 โรงภายในสิ้นปี จากปัจจุบัน 367 โรง และในปี 55 เพิ่มเป็น 430 โรง
สำหรับการลงทุนประเทศอินเดีย คาดว่าในปี 56 จะมีเลนโบว์ลิ่ง 160 เลน ใช้เงินลงทุน 80 ล้านบาทต่อปี ขณะที่โรงภาพยนตร์ 200 โรง
กรรมการผู้จัดการ MAJOR กล่าวต่อว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงค์โปร และนิวยอร์คในต้นเดือนก.ย 54 โดยบริษัทตั้งเป้านักลงทุนต่างชาติในการถือหุ้น 30% จากปัจจุบัน 25% จากเพดานในการลงทุนสูงสุด 49% เนื่องจากเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหุ้น