นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ครึ่งปีหลังปี 54 จะเพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกที่มีรายได้ 1.1 พันล้านบาท เนื่องจากมีงานส่งมอบจำนวนมากจากที่ล่าช้าในครึ่งปีแรก จากที่ฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นจากโครงการเมกะโปรเจ็คของรัฐบาลที่จะเริ่มลงทุน
ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานคงค้างในมือ (Backlog) 2.3 พันล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไปอีก 18 เดือน แบ่งเป็นงานภาครัฐ 70% เอกชน 30% ทั้งนี้ถือว่าเป็น Backlog ที่สูงที่สุดตั้งแต่ ก่อตั้งบริษัทมา
“ช่วงครึ่งที่เหลือปีนี้ คาดว่างานคอนกรีตของภาครัฐและเอกชนขนาดใหญ่จะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ความต้องการคอนกรีตในอุตสาหกรรมก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งถือเป็นโอกาสให้บริษัทสามารถรับงานในรูปแบบต่างๆได้เพิ่มขึ้น ความต้องการใช้คอนกรีตสำเร็จรูปมากขึ้น จะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นพิ่มขึ้น "นายชาคริต กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 54 ที่ 2.5 พันล้านบาท และคาดว่าจะสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรได้จากปีก่อนที่ขาดทุนประมาณ 1 ล้านบาท หลัง 6 เดือนแรกบริษัทมีกำไรแล้วกว่า 8 ล้านบาท แต่ยังไม่มีนโยบายที่จะจ่ายปันผลในปีนี้
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปี 54 จะเพิ่มเป็น 13% จากปีก่อนอยู่ที่ 10-11% แม้จะมีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของค่าแรงงานและค่าเชื้อเพลิง แต่บริษัทก็สามารถปรับเพิ่มราคาขายสินค้าชดเชยได้ โดยคาดว่าราคาสินค้าเฉลี่ยปีนี้จะเพิ่มขึ้นราว 5-10%
ส่วนของนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วัน ของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งถ้าเริ่มใช้จริงก็คงมีผลกระทบกับบริษัทแน่นอน แต่บริษัทไม่กังวล