โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี(SAT)รับผลดีจากอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวในไตรมาส 3-4/54 ยอดส่งมอบค้างจำนวนมากหนุน หลังเหตุภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่นทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์หยุดชะงักในช่วงไตรมาส 2/54 ซึ่งจะช่วยดันผลประกอบการ SAT ฟื้นตัวไปด้วย
ขณะที่การเพิ่มโมเดลใหม่ของรถอีโคคาร์ในปีหน้าจะช่วยต่อยอดการเติบโตของอุตสาหกรรมที่มองเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อให้ผลดำเนินงานของกลุ่มยานยนต์
โบรกเกอร์ คาดการณ์ยอดขาย SAT ในปี 54 เท่ากับ 7,135 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 14% ส่วนกำไรทั้งปี 54 นักวิเคราะห์มอง 700-808 ล้านบาท โดยในครึ่งปีหลังจะพุ่งขึ้นมาเป็นประมาณ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 69% จากครึ่งปีแรกจากการปรับราคาขายขึ้น ตามต้นทุนเหล็กที่สูงขึ้น ด้านโรงงานหล่อเหล็ก ICP2 ที่เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ช่วยลดต้นทุน
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย ( บาท ) บล.ดีบีเอส ฯ ซื้อ 34.00 บล.ฟิลลิป ซื้อ 33.25 บล.ยูโอบีฯ ซื้อ 32.50 บล.กิมเฮ็ง ซื้อ 32.00 บล.เคจีไอ ซื้อ 32.00 บล.เอเชียพลัส ซื้อ 30.34
นางสาวอรมงคล ตันติธนาธร นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)มองว่า ช่วง 2H54 SAT จะมีการฟื้นตัวที่ดี จากไตรมาส 2 /54 ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติในญี่ปุ่นทำให้ยอดขายลดลง แต่ในไตรมาส 3/54 ผลประกอบการจะกลับมาเห็นการเติบโตอย่างเด่นชัดอีกครั้งจากภาคการผลิตรถยนต์ที่กลับมาฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็วกว่าที่คาด โดยเดือนมิ.ย.54 มียอดผลิตรถยนต์ในประเทศเกิน 150,000 คันไปแล้ว และทางด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)คาดการผลิตในช่วงไตรมาส 3/54 (เดือนก.ค.-ก.ย.54)ไว้ที่ 486,987 คันเพิ่มขึ้น 13.72%YoY (และเพิ่มขึ้น 42.59%QoQ)
นอกจากแนวโน้มการผลิตในอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้นแล้ว การเปิดโรงงาน ICP2 ในครึ่งปีหลังนี้ก็ช่วยลดการจ้างงานจากภายนอก(outsourcing)ในส่วนของงานหล่อโดยรวมคาดจะทำให้ผลดำเนินงานในไตรมาส 3/54 ปรับกลับมาอยู่ที่ราว 180-200 ล้านบาทหรือเห็นการเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ประกอบกับการเพิ่มโมเดลของรถประหยัดพลังงานในปีหน้าจะช่วยต่อยอดการเติบโตของอุตสาหกรรมมองเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อให้ผลดำเนินงานของกลุ่มยานยนต์
นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ นักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง กล่าวว่า มีมุมมองที่ดีในหุ้น SAT จากแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว โดยในช่วงครึ่งหลังปี 54 จะโดดเด่น เพราะด้วยคำสั่งซื้อที่ไม่สามารถส่งมอบในไตรมาส 2/54 จะทะลักเข้ามาในไตรมาส 3-ไตรมาส 4/54 จำนวนมาก รวมทั้งความต้องการที่เพิ่มขึ้นสนับสนุนอีก จึงคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก 18% ขณะที่ได้แรงหนุนจากรถคูโบต้าแทรคเตอร์ที่ย้ายฐานการผลิตมาไทย ทำให้ประเมินยอดขาย SAT จะเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ 12-15% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
คาดการณ์ยอดขาย SAT ในปี 54 เท่ากับ 7,135 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 14% ส่วนกำไรในครึ่งปีหลังจะพุ่งขึ้นมาเป็นประมาณ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 69% จากครึ่งปีแรก กำไรที่เพิ่มขึ้นแรงกว่ายอดขายเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นคาดจะกลับมาในระดับ 20-21% จากการปรับราคาขายขึ้นตามต้นทุนเหล็กที่สูงขึ้น และโรงงานหล่อเหล็ก ICP2 ที่เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ช่วยลดต้นทุน ดังนั้นมองกำไรทั้งปี 54 เท่ากับ 808 ล้านบาท
บทวิเคราะห์บล.เอเชียพลัส เชื่อว่าแนวโน้ม 2H54 SAT จะฟื้นตัวเด่นชัด หลังค่ายรถยนต์ทยอยกลับมาผลิตเป็นปกติ และมีการเร่งผลิตเพื่อส่งมอบยอดจองซื้อที่ค้างอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงรองรับโมเดลรถปิกอัพและอีโคคาร์รุ่นใหม่ที่จะออกสู่ตลาดใน 2H54 เพื่อดันเป้าหมายการผลิตรถยนต์ทั้งปี 54 ให้ได้ 1.8 ล้านคัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวคาดจะผลักดันให้ยอดขายงวด 2H54 ของบริษัทเพิ่มขึ้น 20% จาก 1H54 และหนุนให้ Gross Margin ดี ทำให้ภาพรวมงวด 2H54 คาดมีกำไรเฉลี่ย 230-250 ล้านบาท/ไตรมาส และทั้งปี 54 มีกำไรรวม 793 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% yoy
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มปี 55 เริ่มมีความเสี่ยงจากปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว อีกทั้งวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรปยังคงเกิดปัญหาขึ้นต่อเนื่อง ย่อมมีโอกาสกระทบต่อการส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะทวีปยุโรป และอเมริกา (คิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดส่งออกรถยนต์รวม หรือประมาณ 10% ของการผลิตรถยนต์)
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงปรับลดยอดขายของบริษัทลดลงจากประมาณการเดิม 5% เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ที่คาดหมายไว้ที่ 1.9 ล้านคัน ลดลง 5% จากเป้าหมายเดิม 2 ล้านคัน หลังปรับประมาณการคาดหมายกำไรสุทธิปี 55 ไว้ที่ 870 ล้านบาท แต่ราคาเป้าหมายในปี 54 ที่ราคา 30.34 บาท