นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป(MODERN)คาดว่า ผลประกอบการในปีนี้จะทำกำไรไม่ต่ำกว่า 434 ล้านบาท และรายได้ที่ 3,359 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อน โดยคาดว่าครึ่งปีหลังจะทำรายได้และยอดขายมากกว่าครึ่งปีแรก ขณะที่ปัจจุบันมีงานในมือ(backlog)กว่า 1 พันล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรหลายราย เพื่อแสวงหาความร่วมมือในหลายรูปแบบ ทั้งการเข้าซื้อกิจการ แลกหุ้น หรือซื้อหุ้นบางส่วน
นายทักษะ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าครึ่งปีหลังรายได้และยอดขายจะสูงกว่าในครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 1,496 ล้านบาท เป็นไปตามธรรมชาติของธุรกิจ และจากการส่งมอบงานของหน่วยงานภาครัฐที่ใกล้จะปิดงบประมาณรายจ่ายในเดือน ต.ค.54 รวมทั้งคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาอีกกว่า 100 ล้านบาทจากการจัดงานลดราคาสินค้าในช่วงครึ่งปีหลัง
ปัจจุบัน บริษัทมี Backlog มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานออฟฟิศที่จะทยอยรับรู้ในไตรมาส 3-4 ปีนี้ ส่วนงานครัวและบ้าน จะทยอยรับรู้รายได้ไปถึงไตรมาส 3/55 อีกทั้งจะมีงานใหม่ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในปี 55 บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 3,795 ล้านบาท กำไร 448 ล้านบาท และปี 56 มีรายได้เพิ่มเป็น 4,330 ล้านบาท ขณะที่กำไรอยู่ที่ 510 ล้านบาท
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้น คาดว่าทั้งปี 54 จะรักษาระดับที่ 40% จากครึ่งปีแรกทำได้แล้วกว่า 40% สูงขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 35-36% เนื่องจากบริษัทเน้นเรื่องการรักษาต้นทุน และล็อคราคาวัตถุดิบ อีกทั้งมีการคัดเลือกงานที่ให้อัตรากำไรที่ดี
บริษัทมีสัดส่วนรายได้การขายในประเทศ 95% และต่างประเทศ 5% จึงไม่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่ามากนัก และจะเพิ่มเทคโนโลยีในการผลิตให้ดีขึ้นเพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นให้ดี ในส่วนราคาขายบริษัทยังไม่ปรับขึ้น แม้ต้นทุนจะปรับขึ้น แต่จะแก้ปัญหาโดยการควบคุมต้นทุน และจะมีการเจรจากับ Outsouces
นายทักษะ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ตั้งงบลงทุนไว้ 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อเครื่องจักรเพื่อทดแทนเครื่องเดิมในไลน์การผลิตเดิม และเพื่อลดการใช้แรงงาน เนื่องจากประเมินว่านโยบายการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท และเงินเดือนเริ่มต้นของรัฐบาลใหม่จะมีผลกระทบต้นทุนบริษัท 12%
"เราไม่ห่วงเรื่องการขึ้นราคา หรือการขึ้นค่าแรง แต่ห่วงเรื่องเสถียรภาพ ต้องดูนโยบายรัฐบาลใหม่ คาดว่า 1-2 สัปดาห์น่าจะรู้ เพราะในไตรมาส 2 เป็นปัญหาในการทำงาน เพราะต้องรอดูว่ารัฐบาลจะแน่นอนหรือไม่"นายทักษะ กล่าว