ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,069.20 จุด ลดลง 19.89 จุด(-1.83%)มูลค่าการซื้อขาย 39,218.28 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ระดับ 1,079.73 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,066.08 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 114 หลักทรัพย์ ลดลง 400 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 98 หลักทรัพย์
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนลูกค้าบุคคล สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยช่วงบ่ายตลาดยุโรปปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้คงเป็นผลจากเรื่องปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรปเป็นหลัก เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาไม่ดี ขณะเดียวกับสถาบันการเงินในยุโรปก็มีความตึงตัวเรื่อง Funding ทำให้หุ้นแบงก์ถูกขายออกมาด้วย
แต่มองว่าตลาดบ้านเรายังปรับตัวลงน้อยกว่า เนื่องจากยังได้รับแรงซื้อหนุนจากหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และรับเหมาก่อสร้าง โดยอิงรับผลบวกจากนโยบายของรัฐบาลที่จะมีการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยเฉพาะนโยบายปล่อยกู้ซื้อบ้านหลังแรกอัตราดอกเบี้ย 0% 5 ปี
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายสุกิจ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสฟื้นตัว โดยมองว่าทางกลุ่ม G7 น่าจะแสดงท่าทีบางอย่างเพื่อไม่ปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ อีกทั้งในวันที่ 26 ส.ค.นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)น่าจะมีการชี้แนวทางการแก้ปัญหาของสหรัฐออกมาบ้าง
ส่วนบ้านเราคงจะมีการเล่นเทรดดิ้ง โดยอ้างอิงนโยบายของรัฐบาลที่จะมีการแถลงต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,060-1,100 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,884.36 ล้านบาท ปิดที่ 318.00 บาท ลดลง 11.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,406.66 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,856.19 ล้านบาท ปิดที่ 658.50 บาท ลดลง 22.00 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,441.47 ล้านบาท ปิดที่ 68.25 บาท ลดลง 2.25 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,429.79 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท ลดลง 3.00 บาท