(เพิ่มเติม) TOP ลุ้นกำไรสต็อกน้ำมันใน Q3/54 หากราคาสูงกว่า 106-107 เหรียญ/บาร์เรล

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 19, 2011 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทยออยล์(TOP) ระบุว่าบริษัทอาจจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันในช่วงไตรมาส 3/54 หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับเฉลี่ย 106-107 เหรียญ/บาร์เรล และคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังความต้องการน้ำมันภายในประเทศจะสูงขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ และนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ รวมทั้งโรงกลั่น 3 แห่งมีกำหนดปิดซ่อมบำรุง

นางพัชรดา สง่าแสง ผู้จัดการฝ่ายวางแผนกลยุทธ TOP กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกครึ่งปีหลังยังน่าจะเป็นขาขึ้น คาดว่าน้ำมันดิบดูไบในช่วงสิ้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ 109 เหรียญ/บาร์เรล ก็จะทำให้บริษัทยังคงกำไรจากสต็อกน้ำมันที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาส 1/54 ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันในปีหน้าก็ยังอยู่เหนือ 100 เหรียญ/บาร์เรลตลอดทั้งปี

"trend น้ำมันจากนี้ไปน่าจะปรับสูงขึ้น เมื่อถึงปลายปีดูไบน่าจะจบที่ 109 ถ้า 109 ก็เท่ากับ stock gain ที่ได้มาจากไตรมาสแรกก็ยังอยู่ สเปรดก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โรงกลั่นใหญ่ ๆ ต้อง shut down ทำให้ลูกค้าหันมาที่เรามากขึ้น การขายในประเทศยังขายได้ดี"นางพัชรดา กล่าว

ปีนี้คาดว่ากำไรของบริษัทจะสูงกว่าปีก่อนแน่นอน เพราะครึ่งปีแรกมีกำไรไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากทั้งปี 53 มีกำไรราว 9 พันกว่าล้านบาท โดยไตรมาส 1/54 มีกำไร 6 พันล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกำไรสต็อกน้ำมัน แต่ไตรมาส 2/54 กำไร 3 พันล้านบาทมาจากการดำเนินเท่านั้น ส่วนไตรมาส 3/54 รอลุ้นราคาน้ำมันหากสูงกว่า 106-107 เหรียญ/บาร์เรลก็จะทำให้บริษัทมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน แต่หากราคาทรงตัวอยู่ในระดับ 105 เหรียญ/บาร์เรล ก็ไม่ได้ทำให้กังวลว่าจะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันมากนัก

ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์ บริษัทมองว่าไตรมาส 3/54 และไตรมาส 4/54 ราคาพาราไซลีนยังเป็นขาขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัท ขณะที่มองว่าความต้องการน้ำมันในประเทศครึ่งปีหลังจะอยู่ในระดับสูง ดังนั้น สัดส่วนการขายในประเทศของ TOP ก็น่าจะสูงกว่าครึ่งปีแรก แนวโน้มน่าจะอยู่ที่เกือบ 90% จากกว่า 80% ในครึ่งปีแรก ประกอบกับผู้ผลิตในประเทศ 3 รายจะซ่อมบำรุงโรงกลั่น

ขณะที่รัฐบาลมีนโยบายลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลปรับลดลง ซึ่งจะเป็นบวกกับโรงกลั่นน้ำมัน เพราะจะทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันสูงขึ้น หากราคาหน้าสถานีบริการน้ำมันลดลงถึง 6-7 บาท/ลิตรอย่างที่คาดการณ์กันไว้ ก็จะทำให้ปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะในระยะสั้น

นอกจากนี้ ยังมองธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งต้องดูผลตอบแทนการลงทุนประมาณ 11-12% ส่วนการลงทุนใหม่ ๆในต่างประเทศนั้น จะไปทั้งกลุ่มปตท. แต่หากเป็นการเข้าลงทุนในประเทศบริษัทจะลงทุนเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ