ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:วิตกศก.กดดาวโจนส์ปิดร่วง 172 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday August 20, 2011 06:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แรงเทขายในตลาดวอลล์สตรีทยังคงดำเนินไปต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) โดยดัชนีหุ้นสำคัญๆร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ในขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินยุโรปและความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ กระทบตลาด

ณ ช่วงปิดตลาดเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 172.93 จุด หรือ 1.57% มาที่ 10,817.65 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับลง 17.12 จุด หรือ 1.50% สู่ 1,123.53 จุด ดัชนี Nasdaq อ่อนลง 38.59 จุด หรือ 1.62% มาที่ 2,341.84 จุด

สำหรับสัปดาห์นี้ ทั้งดาวโจนส์และ S&P 500 ดิ่งลงกว่า 4% ขณะที่ Nasdaq รูดลง 6.6%

นักลงทุนรู้สึกผิดหวัง หลังจากที่ดาวโจนส์ดิ่งลงมากกว่า 400 จุดในวันเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนถึงความผันผวนครั้งใหญ่ในตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา

เทรดเดอร์เลือกที่จะออกจากตลาดก่อนสุดสัปดาห์ โดยเกรงว่าสถานการณ์หนี้สินในยุโรปอาจจะย่ำแย่ลง โดยการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีแองเจลา เมอร์เคลของเยอรมนีและประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โคซีของฝรั่งเศสเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ไม่ได้ช่วยทำให้ตลาดสงบลง เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีแผนใดๆในการเพิ่มขนาดของกองทุนช่วยเหลือยูโรโซน หรือแผนในการเริ่มขายพันธบัตร ยูโรโซน ซึ่งสร้างความผิดหวังต่อไปให้กับตลาด

หุ้นกลุ่มธนาคารยุโรปรายใหญ่นำการปรับตัวลง ขณะที่หุ้นธนาคารสหรัฐปรับตัวตาม

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกกระแทกลงอย่างหนักเช่นกัน โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นฮิวเล็ตต์-แพ็คการ์ด ซึ่งดิ่งลงกว่า 20% หลังจากที่นักวิเคราะห์หลายรายในตลาดวอลล์สตรีทปรับลดระดับความน่าลงทุนในหุ้นดังกล่าว ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงติดต่อกัน 4 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.

ความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐกระทบตลาดหุ้น โดยหลังจากที่มอร์แกน สแตนเลย์และโกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเมื่อวันพฤหัสบดี ซิตี้กรุ๊ปและเจพีมอร์แกน เชสได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และเจ้าหน้าที่ประสบความยากลำบากในการยับยั้งวิกฤติหนี้ยุโรป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ