ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมธนาคารกลางโลกสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่า สงครามกลางเมืองในลิเบียใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 Index พุ่งขึ้น 0.8% ปิดที่ 224.9 จุด ส่วนดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบลูชิพในตลาดยุโรป พุ่งขึ้น 0.77% ปิดที่ 916.78 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดลบ 6.22 จุด หรือ 0.11% แตะที่ 5,473.78 จุด และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก 34.37 จุด หรือ 1.14% แตะที่ 3,051.36 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานของยุโรปทะยานขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าลิเบียจะสามารถส่งออกน้ำมันได้อีกครั้ง หลังจากกลุ่มกบฏลิเบียสามารถยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองทริโปลี เมืองหลวงของลิเบียได้แล้วเมื่อวานนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐได้ออกมาขานรับข่าวดังกล่าว โดยกล่าวว่าระบอบการปกครองลิเบียของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว
ทั้งนี้ หุ้น Eni ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของอิตาลีและเป็นบริษัทพลังงานต่างชาติรายใหญ่สุดที่เข้าไปดำเนินการผลิตน้ำมันในลิเบีย พุ่งขึ้น 6.3% ขณะที่หุ้นปิโตรแฟค พุ่งขึ้น 3.7% หลังจากบริษัทยืนยันว่าจะดำเนินการผลิตในลิเบียในเร็วๆนี้ หลังจากบริษัทต้องยุติการดำเนินงานมาเป็นเวลานานเนื่องจากสงครามกลางเมืองในลิเบีย
ส่วนหุ้นโททาล เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นปิโตรพาฟลอฟ พุ่งขึ้น 6.2%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เบอร์นันเก้จะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมธนาคารกลางโลก ที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า มีความเป็นไปได้ที่เบอร์นันเก้จะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3 ในการประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นเอสซาร์ เอนเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของอินเดีย ร่วงลง 3.8% หลังจากมีรายงานว่าคณะกรรมการกำกับดูแลด้านพลังงานของยุโรปได้เลื่อนการอนุมัติโครงการก๊าซมีเทนในเหมืองถ่านหิน (coal-bed methane - CMB) ของเอสซาร์ เอนเนอร์จี