นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าผลกำไรของปี 54 จะเติบโตจากปี 53 โดย 6 เดือนแรกของปีนี้บริษัทฯสามารถทำกำไรสุทธิได้ 793 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 544 ล้านบาท โดยเป็นผลสำเร็จจากการควบคุมค่าใช้จ่ายและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง ณ สิ้นเดือน มิ.ย.54 บริษัทคงระดับบริหารค่าใช้จ่ายไว้ได้ 7%
นอกจากนี้ 6 เดือนแรกของปีนี้(54)บริษัทฯมีเบี้ยประกันรับปีแรก 3.1 พันล้านบาท และเบี้ยประกันรับรวม 9.6 พันล้นบาท ซึ่งเบี้ยประกันรับรวมมีอัตราการเติบโตที่ 17%
สำหรับสินทรัพย์ลงทุนรวมของบริษัท ณ 30 มิ.ย.54 บริษัทฯมี 43,389 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 64%, หุ้นกู้เอกชน 14%, หุ้นทุน 10% และอื่น ๆ อีก 12%
นายเดวิด กล่าวต่อว่า บริษัทยังไม่มีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ในระยะ 1-2 ปีนี้เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย บริษัทคงจะมีการดำเนินการแปลงสถานะของบริษัทให้เป็นบริษัทมหาชน
ด้านนายไมค์เคิล จอร์จ แพ็กซ์ตัน ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า บริษัทอยากให้รัฐบาลส่งมอบงานที่สนับสนุนธุรกิจประกันชีวิตได้ ซึ่งก็มีความมั่นใจว่ารัฐบาลจะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางอุตสาหกรรม และมั่นใจว่ารัฐบาลจะบริหารเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ธุรกิจประกันชีวิตเป็นหน่วยสำคัญมากของเศรษฐกิจไทย โดยทุกบริษัทประกันจะต้องเอาเงินเบี้ยประกันที่ได้รับมากลับเข้าไปลงทุนเพื่อแสวงหาผลตอบแทย ซึ่งส่วนใหญ่จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่าเป็นบริษัทประกันชีวิตที่สนับสนุนเศรษฐกิจไทยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าภาคธุรกิจอื่น ๆ
"นโยบายการเพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำขึ้นเป็น 300 บาทนั้น เชื่อว่าจะเป็นการส่งเสริมการออมได้มากขึ้นในธุรกิจประกันชีวิตโดยรวม ซึ่งคนไทยรู้เรื่องการออกเป็นอย่างดี ในปัจจุบันบริษัทฯมีลูกค้าอยู่กว่า 1 ล้านคน เพราะไม่ว่าคนรวยหรือคนจนจะมีเงินมากเท่าไรก็รู้จักที่จะปกป้องตัวเองในเรื่องของการออม ดังนั้น การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้มากขึ้น"มร.ไมค์เคิล กล่าว
ส่วน น.ส.พิมพาภรณ์ อาภาศิริผล รองประธานบริหาร แผนกพัฒนากลยุทธ์ลูกค้า ฝ่ายการตลาด กล่าวว่า กลยุทธ์หลักของบริษัท คือการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งทุกกลยุทธ์มาจาก"เสียงของลูกค้า" ดังนั้น บริษัทฯจึงได้มีการจัด"มหกรรมคาราวานตรวจสุขภาพครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ปี 2554" ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 50,000 คนที่เข้ามาใช้บริการนี้แล้ว และในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ทำประกัน 112 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 100 ล้านบาท
น.ส.วาณี ดวงชโลมนิล รองประธานบริหาร ฝ่ายจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทยไม่ใช่เป็นเพียงผู้ถือหุ้นเท่านั้น แต่เป็นพันธมิตรที่แท้จริง ขณะนี้บริษัทมีนายหน้าประกันชีวิตกว่า 7,000 คน ให้คำแนะนำและบริการทางการเงิน ประจำอยู่ในสาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศมากกว่า 980 สาขา