นางเกษรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ. ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) (TFEX) เปิดเผยว่าในเดือนตุลาคมนี้จะมีการเปิดซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า (Oil Futures) เป็นสินค้าอ้างอิงน้ำมันเบรนท์ ขนาดสัญญา 100 บาร์เรล หรือมูลค่าประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท ส่วนการวางหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือมาร์จิ้นจะสูงกว่าทองคำ เพราะมีความผันผวนมากกว่า แต่อัตราจะเป็นเท่าไรจะมีการประกาศอีกครั้งก่อนเปิดการซื้อขาย 2 สัปดาห์
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ยังมีแนวคิดจะตั้งกองทุนอีทีเอฟน้ำมัน เหมือนกับกองทุนอีทีเอฟทองคำ โดยอยู่ระหว่างหารือกับบริษัทจัดการกองทุน(บลจ.)หลายแห่ง ซึ่งปัจจุบัน มีบลจ.ที่มีการออกกองทุนที่ลงทุนกองทุนที่ลงทุนน้ำมันในตลาดต่างประเทศ(FIF) จำนวน 8 กองทุน และในปี 55 ยังเตรียมจะเปิดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทกับเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดอนุพันธ์ เพื่อเป็นทางเลือกการลงทุน และลดความเสี่ยง
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลท.กล่าวว่า ตลท.ต้องการให้ บมจ.ปตท. (PTT) เข้ามาเป็น Market Maker เพื่อสร้างสภาพคล่องในตลาด Oil Futures และคาดว่าการซื้อขายน่าจะทำให้ตลาดอนุพันธ์คึกคักมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัว
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีโบรกเกอร์ทองคำ 6 แห่งที่จะสามารถเป็นนายหน้าซื้อขายสินค้าทุกชนิดในตลาดอนุพันธ์ได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555
ตั้งแต่ต้นปี 54 จนถึงปัจจุบัน ตลาดอนุพันธ์มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 3.6 หมื่นสัญญา/วันมาจากการซื้อขายทองคำล่วงหน้า(Gold Futures) สูงจากปีก่อนที่มีปริมาณซื้อขายเฉลี่ย 1.8 หมื่นสัญญา/ต่อวัน โดยสินค้าที่มีการซื้อขายสูงสุดได้แก่ SET50 Index Futures 1.4 หมื่นสัญญา/วัน Gold Futures เฉลี่ย 1.4 หมื่นสัญญา/วัน ส่วน Single Stock Futures เฉลี่ย 5,000 สัญญา/วัน ที่เหลือเป็นสินค้าอื่น