โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไทยออยส์(TOP)เนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันถูกมากเมื่อเทียบกับหุ้นโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียและค่าการกลั่นก็ยังอยู่ในระดับที่ดี ปี 54 คาดค่าการกลั่นเฉลี่ย 7 เหรียญฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 3.5 เหรียญฯ/บาร์เรล อีกทั้งสเปรด Px ดีขึ้นด้วย ทำให้ผลกำไรปีนี้น่าจะมีการเติบโตสูงเมื่อเทียบกับปี 53
คาดดการณ์กำไรสุทธิ TOP ปีนี้ไว้ในช่วง 12,870-17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิประมาณ 9,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงแค่ครึ่งปีแรก TOP ก็ทำผลกำไรได้เกินปี 53 ไปแล้ว
รวมทั้งฐานะการเงินแข็งแกร่ง คาดว่า TOP จะมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งใน 3-4 ปีข้างหน้า และสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูง โดยปีนี้คาดว่า TOP จะจ่ายปันผลประมาณ 5 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 7.6% พร้อมกันนี้ ยังมองถึงความเป็นไปได้ที่จะเข้าซื้อ ESSO ในอนาคต
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 3/54 ของ TOP อาจจะออกมาไม่ดี โดยมีความเสี่ยงที่จะเกิด Stock loss ในไตรมาส 3/54 ได้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) JP Morgan ซื้อ 109.00 Deutsche Bank ซื้อ 95.00 บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ซื้อ 107.00 บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 107.00 บล.ไทยพาณิชย์ ซื้อ 105.00 บล.พัฒนสิน ซื้อ 103.00 บล.บัวหลวง ซื้อ 102.00 บล.กสิกรไทย ซื้อ 100.60 บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ซื้อ 100.00 บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 97.00 บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ซื้อ 90.00 บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ซื้อ 82.00
แต่ยังมองว่าใน 1-2 ปีข้างหน้าธุรกิจโรงกลั่นยังสามารถทำกำไรได้ดีอยู่ เนื่องจากโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียมองว่ายังตึงตัวอยู่ ดังนั้นจะทำให้ค่าการกลั่นอยู่ในระดับสูง
ด้านนายชัยพัชร ธนวัฒโน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าการกลั่นของ TOP ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จากความต้องการ(Demand)ที่เข้ามาจากประเทศจีนและญี่ปุ่น อีกทั้งแนวโน้มสเปรด Px ก็ดีขึ้น จึงน่าจะส่งผลให้กำไรของ TOP ปีนี้มีการเติบโตดี
คาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิประมาณ 9,000 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรก(H1/54)TOP ก็ทำผลกำไรได้ 70% จากที่คาดการณ์ไว้ได้แล้ว
ทั้งนี้ กำไรปีนี้มองว่าจะออกมาดีเป็นการรับผลจาก Stock gain ที่เข้ามาแล้วเมื่อไตรมาส 1/4 และค่าการกลั่นที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยปีนี้คาดว่าค่าการกลั่นเฉลี่ย 7 เหรียญฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีค่าการกลั่นเฉลี่ยประมาณ 3.5 เหรียญฯ/บาร์เรล อีกทั้งสเปรด Px ก็ดีขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี TOP อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิด Stock loss ในไตรมาส 3/54 ได้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง
ส่วนนายสุวัฒน์ สินสาฎก ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)แนะนำ"ซื้อ"หุ้น TOP ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 90 บาท/หุ้น เนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันมองว่าถูกมากเมื่อเทียบกับหุ้นโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชีย และค่าการกลั่นก็ยังอยู่ในระดับที่ดี รวมทั้งฐานะการเงินก็แข็งแกร่ง จนสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูง โดยปีนี้คาดว่า TOP จะจ่ายปันผลประมาณ 5 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 7.6%
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ไว้ที่ 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิประมาณ 9,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงแค่ครึ่งปีแรก TOP ก็ทำผลกำไรได้เกินปี 53 ไปแล้ว