ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,046.43 จุด ลดลง 10.85 จุด(-1.03%) มูลค่าการซื้อขาย 33,050 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนกรอบแคบสลับบวกและลบจากนั้นช่วงบ่ายปรับตัวลงเคลื่อนอยู่แดนลบตลอดช่วงบ่าย โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,061.74 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,040.94 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 106 หลักทรัพย์ ลดลง 403 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 104 หลักทรัพย์
นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลงต่อหลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็นตัวซ้ำเติมตลาด หุ้นที่ปรับลงเป็นหุ้นมีแรงขายจากต่างประเทศ เช่น แบงก์ ยกเว้นหุ้น Domestic เช่น ADVANCE DTAC ที่บวกสวนตลาด ส่วนหุ้นตัวอื่นได้รับแรงกดดันจากตลาดภายนอก คาดต่างชาติยังขายสุทธิ
ทิศทางพรุ่งนี้ถ้าดัชนี SET ลงมาที่ lowเดิม 1,039 จุด หรืออย่างแย่สุดที่ 1,000 จุดต้นๆ น่าจะมีกองทุน LTF/RMF เข้ามาซื้อ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามต่อคือภาคปฏิบัติของนโยบายรัฐบาล ปัจจัยต่างประเทศรอท่าทีประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)วันศุกร์นี้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือใช้ QE3 หรือไม่ เพราะหากไม่ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดหุ้นก็จะลงไปเรื่อยๆ เพราะนักลงทุนไม่ค่อยเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐว่าจะเติบโตได้ และสถานการณ์ปรับลดคาดการณ์จีดีพีก็ยังมีค่อนข้างสูงอยู่
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,547.10 ล้านบาท ปิดที่ 594.00 บาท ลดลง 18.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,897.50 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,844.28 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,584.23 ล้านบาท ปิดที่ 114.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 1,453.49 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท