ตลาดหุ้นยุโรปปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบีเอชพี บิลลิตัน และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.4% แตะที่ 229.79 จุด ดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบลูชิพในตลาดหุ้นยุโรปทุกแห่ง พุ่งขึ้น 1.4% ปิดที่ 936.79 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 148.70 จุด หรือ 2.69% ปิดที่ 5,681.08 จุด และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสพุ่งขึ้น 55.18 จุด หรือ 1.79% ปิดที่ 3,139.55 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี พุ่งขึ้น 4% ในเดือนก.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2% เพราะได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของยอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์และรถยนต์
นักวิเคราะห์จากหลุยส์ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ในเมืองเจนีวากล่าวว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดของสหรัฐช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์ของเบอร์นันเก้ในที่ประชุมธนาคารกลางโลกวันศุกร์นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเบอร์นันเก้จะส่งสัญญาณการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่
หุ้นกลุ่มรถยนต์ในตลาดยุโรปพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นบีเอ็มดับเบิลยูพุ่งขึ้น 4.3% หุ้นโฟล์คสวาเกนดีดตัวขึ้น 4.1% หุ้นเดมเลอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถเมอร์เซเดส เบนซ์ พุ่งขึ้น 5.2% หุ้นเฟี๊ยตพุ่งขึ้น 6.6%
หุ้นดับเบิลยูพีพี ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณารายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้น 7.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 517.9 ล้านปอนด์ หรือ 853 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของธุรกิจในเอเชียและละตินอเมริกา
หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 8.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิครึ่งปีแรกพุ่งขึ้นแตะระดับ 330 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากรายได้ที่แข็งแกร่งจากผลผลิตน้ำมันในกานา
หุ้นไฮเนเก้น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 7.6% นับเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2546 หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการก่อนหักภาษีและดอกเบี้ยที่ระดับ 1.26 พันล้านยูโรในช่วงครึ่งปีแรก ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.37 พันล้านยูโร
หุ้นแมนกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่ระดับโลก พุ่งขึ้น 10% หลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแมนกรุ๊ปขึ้นสู่ร่ะดับ “overweight" จากระดับ “underweight"