บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ (SF)คาดว่าปี 55 พื้นที่เช่ารวมของบริษัทจะเพิ่มเป็น 4.1 แสน ตร.ม.จากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 2.7 แสน ตร.ม. หลังจากโครงการ"เมกะบางนา"จะเปิดให้บริการในเดือน พ.ค.55 ซึ่งขณะนี้มียอดจองพื้นที่เข้ามามากกว่า 80% แล้ว ตั้งเป้าสร้างรายได้ปีละ 1,500 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการในปีนี้รายได้จากการดำเนินงานสูงกว่าปีก่อน แต่รายได้รวมอาจต่ำกว่า เพราะปีก่อนมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ แต่ในปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนขายสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่มเติม เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะทำรายได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากจะมีการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ในเดือน ก.ย.นี้ และภายในสิ้นปีนี้จะสามารถสรุปงานรับบริหารศูนย์การค้า 1 แห่ง จากที่เจรจากันอยู่ 5-6 ราย
น.ส.พรรณรวี เอื้ออารี ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน SF เปิดเผยว่า รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการในปี 54 จะสูงกว่าปี 53 ที่ทำได้ประมาณ 1.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามค่าเช่าที่ปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 5% ขณะที่รายได้รวมคาดว่าจะลดลงเพราะปีก่อนมีรายได้พิเศษราว 684 ล้านบาทจากการให้สิทธิการเช่าศูนย์การค้าซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน เข้ากองทุน MJLF
บริษัทคาดว่ารายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 54 จะสูงกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้ 776 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงเดือนก.ย. บริษัทจะมีการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ “NAWAMIN Festival Walk" มูลค่าโครงการ 240 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ได้ลงทุนเพิ่มราว 130 ล้านบาทเพื่อใช้ในการก่อสร้าง หลังจากซื้อที่ดินไปตั้งแต่ปีที่ผ่านมา 100 กว่าล้านบาท
โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนถนนเกษตร-นวมินทร์ และมีพื้นที่เช่ารวมประมาณ 8 หมื่นตารางเมตร ซึ่งการก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 90% บริษัทคาดว่าจะสร้างรายได้เดือนละประมาณ 4 ล้านบาท
ขณะที่โครงการ"เมกะบางนา"ในส่วนพื้นที่ของ IKEA จะเริ่มเปิดให้บริการเดือนพ.ย. นี้ มีพื้นที่เช่ารวมประมาณ 4 หมื่นตร.ม. ซึ่งจะทำให้พื้นที่เช่ารวมของบริษัทในสิ้นปี 54 เพื่มเป็น 2.71 แสนตร.ม. และจะเพิ่มเป็น 4.11 แสนตร.ม. ในปี 55 หลังศูนย์การค้า“เมกะบางนา"ซึ่งมีพื้นที่เช่ากว่า 1.4 แสนตร.ม. เปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนพ.ค. 55
ปัจจุบัน “เมกะบางนา"มีอัตราการเช่าแล้ว 84% ของพื้นที่เช่ารวม โดยอัตราการเช่าสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 2 พันกว่าบาท/ตร.ม./เดือน คาดว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างรายได้ปีละ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งปี 55 น่าจะเริ่มรับรู้รายได้กว่า 50% ของรายได้รวมที่คาดว่าจะทำได้ในแต่ละปี ทั้งนี้บริษัทถือหุ้นในโครงการดังกล่าวอยู่ 49%
ล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างเจรจารับบริหารศูนย์การค้าจากเจ้าของที่ดินที่ต้องการจะลงทุนเปิดศูนย์การค้าอยู่ 5-6 ราย โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถรับบริหารได้ 1 ราย
“การรับบริหารศูนย์การค้าเราก็คุยอยู่ 5-6 ราย แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ก็ต้องขึ้นอยู่กับ location ด้วยว่ามันเหมาะสมกับการทำศูนย์การค้าหรือไม่ เพราะบางที่อาจจะเหมาะกับการทำ residential มากกว่า ตอนนี้เราก็ลองไปสำรวจที่อยู่ ปีนี้น่าจะได้ข้อสรุป 1 ที่ ก็คงเป็น commercial mall ในกรุงเทพ"น.ส.พรรณรวี
และปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นพื้นที่เช่า ซึ่งไม่เหมาะสมกับการขายเข้ากองทุน