นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันนนี้จะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับงวดครึ่งแรกของปี 54 ขณะที่บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะทะลุ 2 ล้านล้านบาทตามเป้าหมาย บนสมมติฐานราคาน้ำมันเฉลี่ย 100 เหรียญ/บาร์เรล รวมทั้งกำไรก็จะดีขึ้นกว่าปีก่อน
ราคาน้ำมันในช่วงนี้ผันผวน โดยขณะนี้ราคาอยู่ที่ 103-104 เหรียญ/บาร์เรล คาดว่าในครึ่งหลังปีนี้ราคาน้ำมันน่าจะอยู่ราว 100 เหรียญต้นๆ/บาร์เรล แต่คงไม่ถึง 110 เหรียญ/บาร์เรล ปัจจัยน่าจะมาจากความวิตกกังวลเศรษฐกิจในยุโรปมากกว่า ที่อาจจะทำให้ความต้องการน้อยลง ขณะที่สถานการณ์ในลิเบียยังไม่เรียบร้อย และเชื่อว่าหากทุกอย่างสงบลิเบียยังต้องใช้เวลา 3-6 เดือนกว่ากำลังการผลิตน้ำมันจะกลับมา
ส่วนกรณีที่กองทุนเทมาเส็กจะขายหุ้นในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีในอินโดนีเซียนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ทางปตท.ยังไม่เคยได้รับข้อเสนอจากกองทุนเทมาเส็กแต่อย่างใด
นายประเสริฐ กล่าวว่า แม้ว่าพื้นที่ของกลุ่ม ปตท.ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดยังมีรองรับการตั้งโรงงานใหม่แต่กลุ่ม ปตท.จะให้ความสำคัญในการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และคำนึงถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น ไบโอพลาสติก เป็นต้น
ด้านนายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย PTT กล่าวว่า ในปีนี้ได้มีนโยบายให้บริษัทในกลุ่มปตท.ทำประกันความเสียง (headging) ทุกผลิตภัณฑ์ไม่น้อยกว่า 50% นอกเหนือจากน้ำมันดิบ เช่น สเปรด สต็อกน้ำมัน เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน หลังจากที่เคยเกิดขึ้นในปี 51 ที่ราคาน้ำมันพุ่งไปมากและปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันดำเนินการทำได้เฉลี่ย 20% เพราะที่ผ่านมาราคาน้ำมันอยู่ระดับค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตาม มองว่าการทำ headging อาจทำให้เสียโอกาสในบางครั้ง แต่อย่างน้อยจะดำเนินการให้ได้ใกล้เคียงแผนธุรกิจ