บลจ.ทิสโก้ ขายกองทุนทิสโก้ไชน่าลิงค์ อายุ1ปีครึ่ง เชื่อตลาดหุ้นจีนโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 25, 2011 16:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บลจ. ทิสโก้ เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้ เตรียมเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิงค์ ฟันด์ 5 (TISCO China Link Fund #5)" รองรับความต้องการของนักลงทุนอีกครั้ง โดยเป็นกองทุนรวมผสมที่มีจุดเด่นอยู่ที่ความเสี่ยงไม่สูง ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีในสัดส่วนที่สามารถจะคืนเงินต้นให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเมื่อครบอายุกองทุน (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) และที่สำคัญ กองทุนดังกล่าวยังแบ่งเงินลงทุนบางส่วนไปลงทุนในออปชั่นอิงดัชนีหุ้นจีน HSCEI เพื่อเพิ่มโอกาสรับตอบแทนสูงโดยไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้นจีนอีกด้วย

ทั้งนี้ กองทุน TISCO China Link Fund #5 มีอายุกองทุนประมาณ 1 ปี ครึ่ง เตรียมเสนอขายครั้งเดียวในวันที่ 29 สิงหาคม — 5 กันยายนนี้ ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท ที่ บลจ.ทิสโก้ และธนาคารทิสโก้ทุกสาขา

นายธีรนาถ กล่าวว่า ทิศทางของเศรษฐกิจโลกในครึ่งปีหลังนับว่ายังอาจจะมีความผันผวน แม้ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาจะส่งสัญญาณการขยายตัวที่ดี แต่ในไตรมาสที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่เป็นปัจจัยลบต่างๆ เช่น แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น วิกฤติหนี้ในยุโรป วิกฤติการคลังในสหรัฐอเมริกาและการปรับลดความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ตลาดกังวลต่อความเสี่ยงที่สหรัฐฯ และยุโรปอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่เศรษฐกิจในเอเชียยังมีแนวโน้มเติบโตดี โดยเฉพาะประเทศจีน โดย บลจ. ทิสโก้ แนะนำนักลงทุนให้หันมาพิจารณาเพิ่มพอร์ตการลงทุนในเอเชียมากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทน และเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน

บลจ.ทิสโก้ ประเมินว่าในตอนนี้นับเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่นักลงทุนจะทำการเพิ่มพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อของภูมิภาคเอเชียเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้เพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้มากขึ้น ประกอบกับศักยภาพการเติบโตทั้งเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าเอเชียจะเป็นภูมิภาคที่แข็งแรงสุดในโลก โดยประเทศที่มีความโดดเด่นที่สุดยังคงเป็นประเทศจีน เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมของจีนยังมีการขยายตัวในอัตราที่สูง และปัญหาเงินเฟ้อคลี่คลายอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงวงจรอาหารช่วงขาขึ้นของจีนใกล้ยุติ รวมถึงราคาสินค้า Soft Commodity เริ่มปรับลดลง จึงเชื่อว่าเศรษฐกิจจีนยังคงมีแนวโน้มที่ดี และเหมาะที่นักลงทุนจะเลือกเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุน

"บลจ.ทิสโก้ เชื่อว่าตลาดหุ้นจีนเป็นตลาดที่มี Upside สูงสุด และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังตลาดหุ้นจีนจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อที่คลี่คลายลงในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นจีนตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมาจบลง โดยหากพิจารณาจากระดับราคาที่ซื้อขาย ณ ปัจจุบัน พบว่าราคาหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกงมีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา โดย PE ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8-9 เท่า เทียบกับอดีตที่อยู่ 14 เท่า จึงเป็นตลาดที่ถูกที่สุดในเอเชีย"นายธีรนาถ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ