ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป ซึ่งส่งผลให้ดัชนี FTSE 100 ปิดลบเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของยุโรปอาจจะขยายเวลาการบังคับใช้คำสั่งห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นกลุ่มการเงิน
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5131.10 จุด ร่วงลง 74.75 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ระลอกใหม่ที่ว่า เบน เบอร์นันเก้ อาจจะไม่ส่งสัญญาณการใช้มาตรการเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะเลือกใช้มาตรการบางด้านเพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้น
นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดหุ้นลอนดอนยังตื่นตระหนกกับข่าวที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของยุโรปอาจจะขยายเวลาการบังคับใช้คำสั่งห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นกลุ่มการเงิน รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า เยอรมนีอาจจะดำเนินการตาม 4 ชาติยุโรปซึ่งประกอบไปด้วยฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และเบลเยียม ในการประกาศห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นกลุ่มการเงิน โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการเก็งกำไร
หุ้นแอดไมรัล กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทประกันรถยนต์รายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 5.5% หลังจากนักวิเคราะห์ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว โดยหุ้นแอดไมรัลร่วงลงไปแล้ว 16.5% ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัท
หุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ของอังกฤษร่วงลง 3.7% ขณะที่หุ้นแมน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุน ร่วงลง 4.6%
หุ้นพรีเมียร์ ออยล์ ดิ่งลง 9.7% เนื่องจากความกังวลที่ว่าพรีเมียร์ ออยล์ อาจจะไม่สามารถเริ่มโครงการผลิตน้ำมันที่บ่อฮันทิงตันในอังกฤษได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2555
อย่างไรก็ตาม หุ้นไดอาจิโอ ซึ่งเป็นผู้ผลิตวิสกี้ "จอห์นนี วอล์คเกอร์" และวอดก้า "สเมียร์นอฟฟ์" พุ่งขึ้น 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรจากการดำเนินการเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก