ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงถ้วนหน้าเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลกับข่าวที่ว่า เยอรมนีอาจจะใช้คำสั่งห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นกลุ่มการเงิน ซึ่งเป็นมาตรการที่มีเป้าหมายจะสกัดกั้นการเก็งกำไร นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์ของเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารสหรัฐ (เฟด) ในที่ประชุมธนาคารกลางโลกวันศุกร์นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.2% ปิดที่ 227.07 จุด ดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบลูชิพในตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง 1.25% ปิดที่ 925.06 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 96.94 จุด หรือ 1.71% ปิดที่ 5,584.14 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,451.52-5,777.04 จุด และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 20.55 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 3,119.00 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,096.54-3,189.42 จุด
นักลงทุนตื่นตระหนกกับข่าวที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของยุโรปอาจจะขยายเวลาการบังคับใช้คำสั่งห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นกลุ่มการเงิน รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า เยอรมนีอาจจะดำเนินการตาม 4 ชาติยุโรปซึ่งประกอบไปด้วยฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และเบลเยียม ในการประกาศห้ามทำชอร์ตเซลหุ้นกลุ่มการเงิน โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการเก็งกำไร
ทั้งนี้ การซื้อขายแบบชอร์ตเซลนั้น นักลงทุนจะขายหุ้นที่ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของหรือถืออยู่ในมือ แต่ไปยืมหุ้นมาขาย เมื่อคาดว่าราคาหุ้นตัวนั้นกำลังจะตกลง เป็นวิธีการที่นักลงทุนสามารถสั่งขายหุ้นเมื่อราคาสูงขึ้น และซื้อคืนในภายหลังเมื่อราคาลดต่ำลง ซึ่งผู้ลงทุนจะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาขายที่สูงกว่าราคาซื้อ
ข่าวการใช้คำสั่งห้ามทำชอร์เซลได้ฉุดราคาหุ้นในตลาดเยอรมนีร่วงลงในอัตราส่วน 5 ต่อ 1 โดยหุ้นอาร์ดับเบิลยูอี เอจี และหุ้น EON AG ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภครายใหญ่ของเยอรมนี ดิ่งลง 3.9% และ 3.1% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นอัลไลอันซ์ เอจี ร่วงลง 3.2%
ทั้งนี้ แม้ตลาดหุ้นทั่วยุโรปร่วงลง แต่ก็มีหุ้นอีกหลายตัวที่ปิดทะยานขึ้นอันเนื่องมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดยหุ้นไดอาจิโอ ซึ่งเป็นผู้ผลิตวิสกี้ "จอห์นนี วอล์คเกอร์" และวอดก้า "สเมียร์นอฟฟ์" พุ่งขึ้น 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรจากการดำเนินการเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก
ขณะที่หุ้นเครดิต อกริโคล ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับสองของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 4.8% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรที่ดีเกินคาด ส่วนหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากนายโรเบิร์ต ไดมอนด์ ซีอีโอของบาร์เคลย์รยืนยันว่า บาร์เคลย์สยังไม่มีความจำเป็นในขณะนี้