ทื่ประชุมผู้ถือหุ้น บมจ.เสริมสุข(SSC) มีมติอนุมัติให้บริษัทเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากบริษัท เป๊ปซี่ - โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด และ Seven-Up Nederland,B.V.(กลุ่มเป๊ปซี่ Pepsi Group)และบริษัท เอสเอสเนชั่นแนลโลจิสติกส์ จำกัด(SSN)อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อขายหุ้นกัน โดยกำหนดให้วันที่ 9 ก.ย.จะมีข้อสรุปทั้งหมด รวมทั้งราคาที่ตกลงซื้อขาย ซึ่งบริษัทเตรียมจะขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้น SSC ในวันดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเมื่อสรุปผลการเจรจากันแล้ว กลุ่มที่ตกลงเข้าซื้อหุ้นจากอีกฝ่ายหนึ่งจะประกาศทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ SSC ได้ในราววันที่ 15 ก.ย.
นางสาวเพียงพนอ บุญกล้ำ ที่ปรึกษากฎหมายของเสริมสุข กล่าวว่า ในวันที่ 9 ก.ย.54(Pricing Date) กลุ่มเป็ปซี่จะเสนอราคาขายหุ้น SSC ให้ SSN พิจารณา และ SSN จะเป็นฝ่ายเลือกที่จะขายหุ้นที่ SSN ถืออยู่ทั้งหมด หรือ เลือกที่จะซื้อหุ้นที่กลุ่มเป็ปซี่ถือยู่ทั้งหมดในราคาหุ้นที่กลุ่มเป็ปซี่เสนอ
"ในวันที่ 9 กันยาฯ คาดว่าช่วงบ่ายจะได้ข้อสรุปว่าจะซื้อขายในราคาที่เท่าไร และใครจะเป็นผู้ซื้อ หรือใครจะเป็นผู้ขาย เราจะแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ และวันนั้นัจะขอระงับการซื้อขายหุ้น SSC ทั้งวัน เพราะเกี่ยวข้องกับราคาซื้อขายที่จะอ่อนไหวต่อราคาหุ้นได้" นางสาวเพียงพนอ อธิบายให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้
ทั้งนี้ บริษัท เป็ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง ถือหุ้น SSC ในสัดส่วน 25.21% และ Seven-Up Nederland, B.V. ถือหุ้น 16.34% รวมถือหุ้น 41.55% ขณะที่ SSN ถือหุ้นในสัดส่วน 32.62% ดังนั้นหากฝ่ายใดฝ่ายหนึงซื้อหุ้นจากอีกฝ่ายทั้งหมดจะถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 74.17%
หลังจากนั้นในวันที่ 14 ก.ย. 54 (Closing Date) จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทหลังมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ และการเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้มีอำนาจ โดยที่ประชุมในวันนี้ได้อนุมัติข้อบังคับบริษัทใหม่ ว่าให้มีคณะกรรมการของบริษัทไม่น้อยกว่า 5 คน จากเดิมให้มีคณะกรรมการบริษัทไม่น้อยกว่า 9 คนแต่ไม่เกิน 15 คน พร้อมยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท (แบบ 247-4) ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ซึ่งจะเริ่มกระบวนการทำคำเสนอซื้อหุ้น ในราคาเดียวกับที่เสนอซื้อกับอีกฝ่าย ในวันที่ 15 ก.ย.54
นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมแผนธุรกิจในอนาคตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสัญญาระหว่างบริษัท กับ เป็ปซี่ (EBA) ซึ่งเป็นผลจากสัญญาจะซื้อจะขายหุ้น โดยการขยายระยะเวลาการมีผลบังคับของการเลิกสัญญา EBA ฉบับปัจจุบันออกไป 7 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 55 หรือ สิ้นสุดวันที่ 1 พ.ย. 55
พร้อมกับให้บริษัททำสัญญา EBA ฉบับใหม่กับเป็ปซี่ มีอายุสัญญา 7 ปี และต่อสัญญาได้โดยอัตโนใตอีก 5 ปี โดคาดว่าจะเริ่มต้นสัญญาใหม่ได้ในวันที่ 1 พ.ย. 55 หากระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อคือ 25 วันทำการ หรือคาดว่าจะเริ่มต้นสัญญาใหม่ในวันที่ 1 ธ.ค. 55 หากระยะเวลาทำคำเสนอซื้อคือ 45 วันทำการ
ทั้งนี้สาระสำคัญในสัญญา EBA ฉบับใหม่ จะกำหนดราคาค่าหัวน้ำเชื้อ ลดลงประมาณ 8.61% ก่อนหักส่วนลด (หรือเท่ากับ 8.80% หลังจากหักส่วนลด) จากราคาภายใต้สัญญา EBA ฉบับปัจจุบัน
ในส่วนคดีที่บริษัท เอสบีเค เบฟเวอเรจ จำกัด ฟ้องร้องบริษัท โดยขอให้ศากเพิกถอนมติการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 รวมถึงมติแต่งตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระและแทนกรรมการที่ลาออกนั้น นางสาวเพียงพนอ กล่าวว่า มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้จะนำเสนอต่อศาลพิจารณาเพราะเป็นข้อมูลใหม่ และที่ผ่านมายังไม่ได้มีการสืบพยาน เชื่อว่าเมื่อศาลเห็นมติที่ประชุมวันนี้จะไม่มีการพิจารณาเหมือนเป็นการถอนฟ้องโดยอัตโนมัติ เพราะมติวันนี้ทับมติเดิม และมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนตัวแทนทั้งจากกลุ่มเป็ปซี่ และ SSN กล่าวในที่ประชุมว่า แต่ละฝ่ายยังไม่มีแนวคิดเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นในขณะนี้ แม้ว่าจะได้เข้าถือหุ้นใหญ่ 74%
นายปริญญา เพิ่มพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการขาย ของเสริมสุข คาดว่า ครั้งนี้ดีลจะสำเร็จได้แล้ว หลังจากที่ยืดเยื้อมานานนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 53 หรือประมาณ 1 ปี 5 เดือน โดยฝ่ายบริหารบริษัทรอวันที่ 14 ก.ย.ว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่จะเดินหน้าอย่างไร