นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)คาดว่า กรมสรรพากรจะประกาศสิทธิประโยชน์ด้านภาษีให้กับผลตอบแทนจากการลงทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน(Infrastructure fund)ในเร็ว ๆ นี้ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต.ให้ผู้ถือหน่วยจะได้รับเงินปันผลในอัตรา 90% ของผลตอบแทน ได้รับการยกเว้นภาษีเป็นระยะเวลา 10 ปี เช่นเดียวกับผู้จัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ คือได้รับยกเว้นภาษีจากการโอนสินทรัพย์เข้ากองทุน
ทั้งนี้ ก.ล.ต.ยังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับเอกชนในกลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนและผู้ประกอบการที่จำหน่ายไฟฟ้าให้กับหน่วยงานของภาครัฐ เพื่อแก้เกณฑ์มูลค่าในการจัดตั้งกองทุนย่อยโครงสร้างพื้นฐาน จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะต้องมีมูลค่าโครงการของกองทุนย่อยไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท จะมีการปรับลดมูลค่ากองทุนลงเพื่อให้จัดตั้งได้ง่ายขึ้น
ขณะที่เกณฑ์การจัดตั้งกองทุนหลักของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานยังกำหนดไว้ที่มูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าเกณฑ์ใหม่ดังกล่าวจะเสร็จในช่วงประมาณเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนนี้
"การปรับเกณฑ์ดังกล่าวจะเอื้อประโยชน์ต่อเอกชนที่ต้องการเข้ามาระดมทุน เพื่อจัดตั้งกองทุนมากขึ้น โดย ก.ล.ต.พร้อมให้การสนับสนุนและเชิญชวน เพื่อเอื้อต่อโครงการที่ควรได้รับการดูแลตามนโยบายของรัฐบาล และเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมต่อการใช้พลังงานในประเทศที่จะขยายตัวขึ้น หลังจากมีเอกชนจำนวนหลายรายมีความสนใจในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน"นายประเวช กล่าว