SPORT-W4 ปิดเทรดวันแรกที่ 1.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 9.55 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.06 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.12 บาท และราคาลงต่ำสุด 1.01 บาท
ขณะที่หุ้น SPORT ปิดที่ 2.90 บาท ลดลง 0.06 บาท(-2.03%)มูลค่าซื้อขาย 1.62 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุด 3 บาท และราคาลงต่ำสุด 2.90 บาท
บล.ทิสโก้ ประเมินมูลค่าใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท (SPORT-W4)เชื่อว่า SPORT-W4 จะซื้อขายที่ All-in Premium เป็นติดลบเล็กน้อยราว 3-4% เช่นเดียวกับ SPORT-W3 จากราคาหุ้นแม่ที่ 2.96 บาท (26 ส.ค.) โดยประเมินมูลค่า SPORT-W4 ตาม Black-Scholes Model ได้ที่ 1.12 บาท/หน่วย คิดเป็น All-in Premium ติดลบ 3.0% หากเปรียบเทียบ SPORT-W4 และ SPORT-W3 โดยมองมีความน่าสนใจพอ ๆ กัน ไม่แตกต่างกันมากนัก
ดังนั้น นักลงทุนควรเลือกตัวที่มี All-in Premium น้อยกว่าเป็นสำคัญ (ยิ่งตัวไหนติดลบมากยิ่งดี) สำหรับต้นทุนผู้ถือ SPORT-W4 คาดว่าจะอยู่ที่ 0.88 บาท/หน่วย ซึ่งมาจากส่วนต่างราคาหุ้นแม่ (SPORT) ก่อนและหลังขึ้นเครื่องหมาย XW เมื่อวันที่ 11 ก.ค. และคูณด้วย 4 เนื่องจากเป็นการให้สิทธิ 4 : 1
SPORT เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสิ่งพิมพ์ด้านกีฬารายใหญ่ของประเทศ มีส่วนแบ่งตลาดกว่าร้อยละ 90 หรือเป็นที่รู้จักในนาม “สยามกีฬารายวัน" ผลประกอบการ 6M54 ลดลงถึง 59% จากที่มีกำไรสุทธิ 54 ล้านบาทใน 6M53 เหลือเพียง 22 ล้านบาท (EPS = 0.08 บาท) หลัก ๆ เนื่องจากรายได้ลดลง เพราะในไตรมาส 2/53 เป็นช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก ด้วยผลประกอบการปีนี้ที่ถดถอย จึงส่งผลให้ราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายที่ PER สูงถึง 90 เท่า และ PBV ที่ประมาณ 1.4 เท่า
อย่างไรก็ดี SPORT ยังเป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างดีสม่ำเสมอ 2 ครั้ง/ปี โดยเฉลี่ยจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลราวปีละ 4-5% ล่าสุด บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก (1H54) จำนวน 0.08 บาท/หุ้น (คิดเป็นการจ่ายเงินปันผล 100% ของกำไรสุทธิ 1H54) โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 1 ก.ย. นี้ (yield 2.7%)
SPORT-W4 ออกจำนวน 69.17 ล้านหน่วย จัดสรรแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 : 1 อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 1.75 บาท, อายุ 3 ปี โดยใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน มี.ค., มิ.ย., ก.ย. และ ธ.ค. (ใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 30 ก.ย. 54 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 15 ส.ค. 57 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ)