นายเจริญสุข วรพรรณโสภาค รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้คงจะเติบโตเพียง 6-10% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะโต 12% จากปริมาณการใช้น้ำที่ลดลง โดยคาดว่าในปีนี้ปริมาณการใช้น้ำจะอยู่ที่ 271 ล้านลูกบาศก์เมตร จากเดิม 286 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปีก่อนที่มีปริมาณการใช้น้ำ 245 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากฝนตกมาก ประกอบกับมีลูกค้าบางรายหันไปใช้น้ำของบริษัทเองโดยเฉพาะกลุ่มประปาซึ่งปกติกลุ่มนี้จะใช้น้ำปีละ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปีนี้ลดลง
แนวโน้มครึ่งปีหลังประเมินว่าปริมาณการใช้น้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากครึ่งแรกที่ปริมาณการใช้น้ำโต 5.26% เนื่องจากเป็นไซเคิลของธุรกิจที่จะสูงขึ้นช่วงปลายปีและธุรกิจปิโตรเคมีที่จะขยายกำลังการผลิตทำให้อัตราการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้น และการประปาพัทยาใช้น้ำสูงขึ้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะปรับราคาขายน้ำดิบเพิ่มขึ้น 8% ซึ่งจะมีผล ม.ค. 55 เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าไฟฟ้าที่ 37% ต้นทุนการลงทุนซึ่งเป็นโครงการของบริษัทที่ลงทุนต่อเนื่องใน 3-4 ปีข้างหน้า เช่น โครงการท่อที่ 3 หนองปลาไหล มาบตาพุด วงเงิน 2.2 พันล้านบาทและสถานีสูบน้ำบางพระทับมา 2.5 พันล้านบาท โดยได้มีการทยอยลงทุนไปแล้วบ้างบางส่วน
นายเจริญสุข กล่าวว่า ในปี 55 บริษัทยังมีแผนศึกษาการลงทุนในการสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อเป็นแหล่งรองรับเก็บน้ำมากขึ้นคาดมีขนาด 32 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี และศึกษาการวางท่อน้ำในแหล่งน้ำที่กระบี่ พังงา ภูเก็ต จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้บริษัทในอนาคต
นอกจากการลงทุนในธุรกิจน้ำแล้วยังมองหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างรายได้โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการคุยกับพาร์ทเนอร์ที่จะร่วมทุนในการจัดตั้งบริษัทดำเนินธุรกิจบำบัดน้ำเสียและกำจัดขยะซึ่งโครงการดังกล่าวยอมรับว่ามีความล่าช้าและอาจไม่ทันปีนี้เนื่องจากยังตกลงกันไม่ได้ในเงื่อนไขของโครงการรวมถึงโครงการใหม่ๆ เช่นการเข้าไปถือหุ้นธุรกิจประปาในต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเลือกโดยตั้งเป้ามีผลตอบแทนการลงทุนที่ 15% และจากการหาธุรกิจใหม่ๆ จะมาช่วยชดเชยการเติบโตในปีหน้าที่มองว่าจะเติบโต 3.5% โตชะลอลงตามอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มองในปีหน้าจะเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งโครงการดังกล่าวหากสามารถดำเนินการได้ก็จะผลักดันให้รายได้กลับมาเติบโตที่ 10% ตามที่ตั้งเป้าไว้