ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นอังกฤษพุ่งแรง หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นอังกฤษ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่อย่างคึกคัก ซึ่งสามารถลดปัจจัยลบจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอของสหรัฐและยุโรปได้

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1% ปิดที่ 230.64 จุด ดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบลูชิพในตลาดยุโรปพุ่งขึ้น 1% ปิดที่ 940.02 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 26.15 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 5,643.92 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,572.65-5,730.36 จุด และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้น 5.54 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 3,159.74 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,129.04-3,193.17 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษทะยานขึ้น 138.74 จุด ปิดที่ 5268.66 จุด อันเนื่องมาจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่สุดของโลก พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นเอ็กสตราต้า ดีดขึ้น 4.7% และหุ้นริโอทินโตพุ่งขึ้น 4.3% หุ้นลอนมิน ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลาตินัมรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก พุ่งขึ้น 8.5% หุ้นแองโกล อเมริกัน ผู้ผลิตพลาตินัมรายใหญ่ของโลก ดีดขึ้น 6.3% และหุ้นอันโตฟากัสตา ผู้ผลิตทองแดงของชิลี พุ่งขึ้น 6.1%

หุ้นบริษัทเหมืองที่ผลิตโลหะทองแดงได้รับแรงหนุนมากเป็นพิเศษจากการคาดการณ์ที่ว่า คนงานที่เหมืองแร่กราสเบิร์กของบริษัทฟรีพอร์ท-แมคมอร์แกน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ อิงค์ อาจจะก่อเหตุประท้วงนัดหยุดงาน หลังจากสหภาพแรงงานและฟรีพอร์ท-แมคมอร์แกน ไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องค่าแรง ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาทองแดงในตลาดลอนดอนปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นด้วย โดยหุ้นหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 8% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สพุ่งขึ้น

การทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มธนาคารสามารถลดผลกระทบจากรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 44.5 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552 รวมทั้งรายงานที่วา ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของกลุ่มผู้บริโภคในยุโรป ร่วงลง 4.7 จุด สู่ร่ะดับ 98.3 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 6 เดือน