ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ (31 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้บดบังรายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 8,918.50 จุด ลบ 35.40 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดลดลง 0.07 จุด มาอยู่ที่ระดับ 2,566.53 จุด
อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,270.20 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,846.89 จุด เพิ่มขึ้น 3.07 จุด ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,256.34 จุด เพิ่มขึ้น 52.17 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,665.22 จุด เพิ่มขึ้น 19.03 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียเป็นไปอย่างผันผวนในช่วงเช้านี้ หลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำระดับโลกเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 44.5 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552 จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 59.2 จุด เนื่องจากชาวอเมริกันวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มรายได้และการจ้างงาน
ตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงในช่วงเช้านี้ แม้กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 แต่ตัวเลขดังกล่าวยังขยายตัวต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ร่วงลง 11% หุ้นโซนี่ คอร์ป ดิ่งลง 1.7% หุ้นเทเลคอม คอร์ป ของนิวซีแลนด์ ร่วงลง 3.6% หลังจากมีรายงานว่าผู้บริหารของบริษัทจะลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่หุ้นโอแลม อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นผู้จัดหาสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตร พุ่งขึ้น 5.6% ในการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด