ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่ายอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด และจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเดือนหน้า
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 125.87 จุด หรือ 2.4% ปิดที่ 5,394.53 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนทะยานขึ้นแข็งแกร่งเนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศ พุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 4.532 แสนล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9% ขณะที่ ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 91,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากรายงานการประชุมระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายบางคนของเฟดได้ระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐอีก
ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐและการพุ่งขึ้นของราคาโลหะพื้นฐานในตลาดลอนดอนช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 3.1% หุ้นริโอทินโตดีดตัวขึ้น 3.5% และหุ้นเอ็กซ์สตราตาพุ่งขึ้น 5.2%
หุ้นสมิธ แอนด์ เนฟิว ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางกายภาพสำหรับใช้ในวงการแพทย์ พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากหนังสือพิมพ์เดอะ เดลี เมล์รายงานว่า บริษัท ไบโอเมติก อิงค์ อาจจะเสนอซื้อกิจการสมิธ แอนด์ เนฟิว มูลค่า 900 เพนซ์ต่อหุ้น
หุ้นเทสโก ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่สุดของอังกฤษ พุ่งขึ้น 3.8% หลังจากมีรายงานว่าเทสโกวางแผนที่จะขายห้างเทสโกทั้งหมด 129 แห่งในประเทศญี่ปุ่น