(เพิ่มเติม) PAO คาดปี 54 รายได้-กำไรสูงกว่าปีก่อน ก่อนโตก้าวกระโดดแตะ 3พันลบ.ปี 55

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 1, 2011 13:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อั่งเปา แอสเสท(PAO)ลั่นอนาคตสดใสพร้อมกลับเข้าเทรด 9 ก.ย.คาดรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้จะปรับตัวขึ้นจากปี 53 ที่มีรายได้ 630 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท ในปีนี้น่าจะมีรายได้ราว 1 พันล้านบาท ก่อนจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 3 พันล้านบาทในปี 55 จากการรับรู้รายได้คอนโดมิเนียม 2 แห่งเข้ามาเต็มที่ และในไตรมาส 4/54 จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 2 แห่ง เป็นบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม โดยบริษัทยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 234 ล้านบาทภายในไตรมาส 1/55

อนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ให้ PAO พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนและให้ซื้อขายหลักทรัพย์ได้ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.54 เป็นต้นไป หลังจากที่บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน(NPG)และได้ยื่นคำขอพ้นเหตุเพิกถอนโดยแสดงได้ว่าบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามแนวทางและขั้นตอนการขอพ้นเหตุเพิกถอนแล้ว

นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PAO กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับผู้ถือหุ้นของ PAO ที่หุ้นจะได้กลับเข้ามาซื้อขายอีกครั้ง ถือเป็นความสำเร็จของคณะผู้บริหารชุดใหม่ที่นำธุรกิจใหม่เข้ามา คื อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เรามีประสบการณ์และมีความชำนาญอยู่แล้ว เนื่องจากดำเนินธุรกิจนี้มาเป็นเวลากว่า 20 ปี และที่ผ่านมาก็สร้างผลประกอบการที่ดีเติบโตต่อเนื่องทุกปี

การเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้น เพื่อที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง เพราะการเป็นบริษัทจดทะเบียนจะทำให้ชื่อเสียงของ “อั่งเปา แอสเสท" เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีช่องทางในการระดมทุนมากขึ้น ซึ่งทำให้มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นในการที่จะขยายกิจการให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างรายได้ให้เกิดแก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ PAO วางเป้าหมายที่จะเป็นผู้ประกอบการติดอันดับ 1 ใน 10 ของวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใน 5 ปีนับจากนี้ โดยปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 7 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท โดยมีสินค้าที่สามารถสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในทุก Segment อย่างครบถ้วน

นายวิษณุ กล่าวว่า ครึ่งปีหลังบริษัทจะรับรู้รายได้ราว 600-700 ล้านบาทจากโครงการบ้านเดี่ยวที่สร้างใกล้แล้วเสร็จ ได้แก่ โครงการ ณุศาศิริ สรทร-ปิ่นเกล้า, ณุศาศิริ สาทร-วงแหวน และณุศาศิริ พระราม 2 รวมทั้งโครงการกฤษณา พระราม 5 โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ราว 284 ล้านบาท

สำหรับโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในไตรมาส 4/54 จะมีมูลค่ารวมราว 3 พันล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทมีที่ดินเปล่าราว 200 ไร่ บนถนนพระราม 2 ที่สามารถจะนำมาพัฒนาโครงการได้อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มียอดขายรอโอน(backlog) 1,250 ล้านบาท และตั้งเป้าทั้งปีที่ 1,600 ล้านบาท

แผนงานในปี 55 คาดว่าจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2-3 โครงการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ซึ่งหากศึกษาแล้วเห็นว่ามีความคุ้มค่าในการลงทุน รวมทั้งสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวสนับสนุนในการลงทุน ก็พร้อมจะดำเนินการทันที โครงการที่บริษัทฯ กำลังศึกษานั้นมีทั้งแนวราบและแนวสูง

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน PAO กล่าวว่า ในการเปิดเทรดวันแรก 9 ก.ย.หลังจากห้ามการซื้อขายมา 6 ปีนั้น ราคาปิดครั้งสุดท้ายของหุ้น TKD ซึ่งเป็นชื่อเก่าของ PAO อยู่ที่ 0.50 บาท/หุ้น เมื่อ 14 พ.ย.48 หลังจากนั้นได้มีกลุ่มณุศาศิริเข้ามาเพิ่มทุนและปรับราคาพาร์ ทำให้ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายจะกลายเป็น 0.38 บาท/หุ้น

การกลับมาเรครั้งนี้จะทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยกว่า 2,400 คน สัดส่วนคิดเป็น 37.87% ของทุนชำระแล้ว สามารถนำหุ้นเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ 45% จะมีระยะเวลาห้ามนำหุ้นออกมาซื้อขาย(silent period)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ